นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้ว่าการ กปภ. กล่าวว่า กปภ. มุ่งหวังว่าความพยายามในการพัฒนาระบบประปาของ กปภ. ในพื้นที่ความรับผิดชอบจะทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและสามารถต่อยอดสู่ความมั่นคงด้านอื่นๆ อย่างยั่งยืน สำหรับจังหวัดตราด มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วเนื่องจากเป็นพื้นที่เศรษฐกิจชายฝั่งทะเลและพื้นที่เกษตรกรรมที่สำคัญของประเทศไทย มีการขยายตัวของเมืองและการย้ายถิ่นฐานของแรงงานต่างด้าวเป็นจำนวนมากจึงจำเป็นต้องมีการปรับปรุงขยายระบบประปาให้ทันต่อการเพิ่มขึ้นของประชากรและรองรับการขยายพื้นที่ให้บริการน้ำประปาไปยังชุมชนรอบนอกที่ยังขาดแคลน ดังนั้น กปภ. จึงดำเนินการก่อสร้างปรับปรุงขยายระบบประปา กปภ.สาขาตราด-บ่อไร่ ทุกขั้นตอนตั้งแต่ ระบบน้ำดิบ ระบบผลิต ไปจนถึงระบบจ่ายน้ำ ประกอบด้วย
1)ระบบน้ำดิบ ก่อสร้างโรงสูบน้ำพร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำและปรับปรุงท่อส่งน้ำดิบที่สถานีสูบน้ำดิบอ่างเก็บน้ำชลประทานและสถานีสูบน้ำดิบอ่างเก็บน้ำคลองมะนาว ซึ่งช่วยเพิ่มปริมาณการสูบน้ำจากแหล่งน้ำดิบเข้าสู่กระบวนการผลิตได้มากขึ้น
2)ระบบผลิต ปรับปรุงระบบผลิตน้ำที่สถานีผลิตน้ำปลายคลอง 1 และเพิ่มกำลังการผลิตน้ำให้กับสถานีผลิตน้ำปลายคลอง 2 และสถานีผลิตน้ำบ่อไร่ พร้อมก่อสร้างถังน้ำใสและระบบจ่ายสารเคมี ช่วยให้ กปภ.สาขาตราด สามารถผลิตน้ำประปาได้ถึง 1,690 ลบ.ม./ชม. ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำประปาของประชาชนในพื้นที่และมีศักยภาพในการขยายเขตการบริการน้ำประปาสู่พื้นที่โดยรอบ
3)ระบบจ่ายน้ำ ปรับปรุงระบบจ่ายน้ำ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและระบบท่อจ่ายน้ำให้ทุกสถานีผลิตน้ำ รวมถึงสถานีจ่ายน้ำทั้ง 3 แห่ง คือ สถานีจ่ายน้ำท่าพริก สถานีจ่ายน้ำน้ำเชี่ยว และสถานีจ่ายน้ำแหลมงอบ
นายจิรพงค์ แสวงการ ผู้จัดการ กปภ.สาขาตราด กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน กปภ.สาขาตราด มีระบบประปาที่มั่นคงและพร้อมให้บริการน้ำประปาอย่างยั่งยืน โดยสามารถให้บริการประชาชนได้ถึง 31,000 ครัวเรือน ในอีก 10 ปีข้างหน้า ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมืองตราด อำเภอแหลมงอบ อำเภอเขาสมิง และอำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ตลอดจนสามารถขยายการบริการน้ำประปาไปยังชุมชนใกล้เคียงในอนาคตได้อีกด้วย ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนอย่าละเลยการสร้างจิตสำนึกอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ เพื่อให้มีน้ำใช้ได้นาน ๆ กปภ. เชื่อมั่นว่า Save Water, you make it : ประหยัดน้ำ คุณทำได้
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit