โดยกองทุนKTFF227 อายุโครงการ 3 เดือน เน้นลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ80 โดยกองทุนจะลงทุนใน เงินฝากประจำ Agricultural Bank China , Bank of China ,China Construction Bank Asia , Qatar National Bank , AL Ahli Bank , Commercial Bank PQSC และ บัตรเงินฝาก China Merchants Bank ผลตอบแทนประมาณ 1.60% ต่อปี ส่วนกองทุน KT-THAIGOV7 อายุโครงการ 6 เดือน เน้นลงทุนในตราสารภาครัฐในประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 โดยลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง และพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ผลตอบแทนประมาณ 1.40% ต่อปี
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศ อายุคงเหลือต่ำกว่า 4 ปี อัตราผลตอบแทนมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแรงขายของนักลงทุนเพื่อปรับพอร์ตไปลงทุนในตราสารระยะยาว ส่งผลให้ตราสารหนี้อายุคงเหลือมากกว่า 4 ปีขึ้นไป อัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุ ตามแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศ จากความกังวลเรื่องสงครามการค้า การชะลอตัวของตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา และตัวเลขการส่งออกเดือนเมษายน ที่ออกมาติดลบต่อเนื่องจากเดือนมีนาคม ทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีแนวโน้มที่จะคงดอกเบี้ยนโยบายตลอดปี 2562
ส่วนแนวโน้มอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา มีการปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี6 เดือน จากการที่นักลงทุนปรับไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ จากความกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ที่มีความรุนแรงมากขึ้นจากการสั่งห้ามบริษัทในสหรัฐอเมริกาทำธุรกิจกับ HUAWEI โดยความขัดแย้งดังกล่าวอาจจะทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง และตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐฯด้วย โดยส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง 4 bps. มาอยู่ที่ 2.16% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 5 bps. มาอยู่ที่ 2.12% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 7 bps. มาอยู่ที่ 2.32% ต่อปี
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : สำนักส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร โทร 0-2686-6206 -7
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit