เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันปรับองค์กร ปลุกสังคม รับปรากฏการณ์ 'Digital Transformation' ปัจจุบัน 'Digital Transformation' เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในสังคมการทำงานและในกลุ่มคนรุ่นใหม่ หลักสำคัญของ 'Digital Transformation' คือ การมุ่งเน้นนำ 'Digital Technology' ไม่ว่าจะเป็น 'Cloud', 'Big Data', 'Internet of Things' (IoT) และเทคโนโลยีอื่นๆ มาปรับใช้กับทุกส่วนของธุรกิจ ตั้งแต่กระบวนการทำงาน ไปจนถึงการกำหนดเป้าหมายการเติบโตในอนาคต เพื่อให้ธุรกิจปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ประเทศไทยเองก็มีความพยายามปรับตัวเพื่อขานรับกับ 'Disruption' ที่เกิดขึ้น โดยภาครัฐพยายามผลักดันนโยบาย 'Thailand 4.0' เพื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจในระดับมหภาคให้เป็น 'Value–Based Economy' หรือ 'เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม'
ปัจจุบัน ภาคเอกชน บริษัทต่างๆ พยายามนำเอาเทคโนโลยีเข้ามายกระดับการทำธุรกิจให้มีประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ตรงจุดยิ่งขึ้น โดยข้อมูลจาก 'Dell Technologies' และ 'Intel' ระบุว่าในประเทศไทยมีองค์กรดิจิทัลแบบเต็มตัว (Digital Leader) ที่มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้อย่างเต็มรูปแบบ ประมาณ 7% นอกจากนี้ ยังมีองค์กรที่มีแผนงานดิจิทัลแบบจริงจังและมีการลงทุนด้านนวัตกรรม (Digital Leader: Digital Adopter) ประมาณ 40% รวมถึงองค์กรที่กำลังปฏิรูปสู่ดิจิทัลอย่างระมัดระวัง มีการวางแผนด้านนวัตกรรมในอนาคต ประมาณ 23% ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยกำลังอยู่ในจุดที่เข้าสู่สังคมดิจิทัลอย่างเต็มตัว
ดร. สันติธาร เสถียรไทย Group Chief Economist แห่ง Sea (Group) กล่าว "ในฐานะผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตแพลตฟอร์มชั้นนำ Sea มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคและผู้ประกอบการรายย่อยในภูมิภาคของเราให้มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยี ผ่านบริการและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายจากบริษัทในเครือได้แก่ การีนา ช้อปปี้ และแอร์เพย์ เราต้องปรับตัวเพื่อขานรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ทำให้เราตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงในหลายมิติที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจากการเข้ามาของเทคโนโลยี ปัจจุบันนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกผลัดเปลี่ยนเข้าสู่สังคมแบบดิจิทัล เรียกได้ว่าทุกๆ สิ่งถูก 'Disrupt' ด้วยกระบวนการทางดิจิทัลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อคนในสังคมไม่มากก็น้อยทั้งในแง่ของการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน รวมไปถึงการดำเนินธุรกิจต่างๆ การเรียนรู้ที่จะพัฒนาตนเองและการปรับตัวให้เข้ากับการผลัดเปลี่ยนเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบนี้ จะทำให้การใช้ชีวิตดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นมาเติมเต็มชีวิตให้เกิดความสะดวกสบายได้มากยิ่งขึ้น จึงเป็นที่มาของการจัดงานเสวนารอบพิเศษ 'Sea Insight Future Focus' ขึ้น โดยเป็นการนำเสนอมุมมองและสำรวจแง่มุมต่างๆ เกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการเข้ามาของเศรษฐกิจดิจิทัลและการรับมือกับ Disruption และเทรนด์ใหม่ๆ พร้อมกันนี้ เรายังอยากให้ทุกท่านมาร่วมกันหาคำตอบว่าทำอย่างไรเราจึงจะปรับตัวให้มีความรู้ความสามารถเท่าทันการเปลี่ยนแปลงนี้ เพื่อให้ก้าวข้ามขีดจำกัดและเปิดศักยภาพใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลง และ "ทรานส์ฟอร์ม" ตลอดเวลา "คน" กลายเป็น ฟันเฟืองสำคัญในการพัฒนาองค์กรอย่างไรก็ตาม "รายงานปลดล็อคโลกเศรษฐกิจในยุคแห่งการปฏิรูปด้วยดิจิทัล" จาก 'Microsoft' และ 'IDC Asia Pacific' พบว่า แม้กว่า 82% ขององค์กรในประเทศไทยได้เริ่มเดินหน้าปรับองค์กรสู่ 'Digital Transformation' แล้ว ความท้าทายในการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบที่ภาคธุรกิจและผู้ประกอบการต้องพบในอนาคตคือ การขาดแคลนทรัพยากรมนุษย์ และปัญหาช่องว่างของทักษะ ซึ่งเกิดจากความไม่พร้อมด้านความเข้าความเข้าใจในเทคโนโลยีและด้านทักษะที่จำเป็นในการปรับตัวให้ก้าวทันกับความเปลี่ยนแปลงจากปรากฏการณ์ 'Digital Transformation'
ดร.ศรุต วานิชพันธุ์ Director of Sea (Thailand) กล่าวเสริมว่า "เราคงบอกอย่างชัดเจนไม่ได้ว่าในอีก 10 – 20 ปีข้างหน้า รูปแบบการศึกษาซึ่งเป็นพื้นฐานหนึ่งของการใช้ชีวิต รวมไปถึงสังคมจะมีการเปลียนแปลงไปมากมายอย่างไร แต่สิ่งที่แน่นอนมากที่สุดที่ควรจะเกิดขึ้นคือการเตรียมความพร้อมรับมือต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องของเทคโนโลยีส่งผลดีอย่างเป็นรูปธรรมมากมายแม้ว่าในบางครั้งเราจะพบกับอุปสรรคในการปรับตัว ดังนั้นองค์กรและสถาบันการศึกษาต่างๆ ต้องหันมาให้ความสำคัญในการสร้างความรู้ความเข้าใจ ให้การช่วยเหลือและสนับสนุนตลาดแรงงาน ที่สำคัญอย่างยิ่งคือการอบรมทักษะ ที่จำเป็นให้แก่บุคลากรไทย ทั้ง 'Learning Skills' เช่น การคิดวิเคราะห์และความสร้างสรรค์ที่จะช่วยให้บุคลากรสามารถแก้ไขปัญหาใหม่ๆ ที่เข้ามาได้อย่างมีประสิทธิภาพ 'Literacy Skills' เช่น การทำความเข้าใจข้อมูลข่าวสารและเทคโนโลยีที่ใช้บริหารจัดการข้อมูล และ 'Life Skills' เช่น การต่อยอดสิ่งเดิมๆ ให้สอดรับกับสถานการณ์ใหม่ๆ ความเป็นผู้นำ และ Passion ในการริเริ่ม ทุ่มเท ทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างความยืดหยุ่นในการปรับตัวไปตามสภาวะเศรษฐกิจ ตลาดแรงงาน วิถีการทำงาน และสังคมโลกที่เปลี่ยนผันไปอย่างรวดเร็วบนโลกที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและข้อมูล"
"ในมุมมองของ Sea เรามุ่งมั่นที่จะเป็นองค์กรที่ปั้นบุคลากรให้เปี่ยมด้วยทักษะแห่งอนาคต มี Sea ทำหน้าที่เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ช่วยเพิ่มโอกาสและพัฒนาศักยภาพให้แก่บุคลากร โดยมีการส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้อยู่ในกระบวนการทำงานอย่างเต็มรูปแบบและยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นในด้านการบริหารจัดการงานและความยืดหยุ่น ด้านการริเริ่มตัดสินใจลองผิดลองถูกแก่พนักงาน (Decentralization) ภายใต้คำแนะนำของหัวหน้าในสายงานและแนวทางการทำงานเข้าสู่ส่วนกลางขององค์กร (Centralization) นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับ การสนับสนุนการศึกษาและพัฒนาความสามารถของเยาวชน อาทิ การร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อพัฒนาหลักสูตรด้านการผลิตและบริหารธุรกิจ Digital Entertainment การมอบโอกาสให้นักศึกษา
เข้ามาฝึกงานในองค์กรของเราเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์จริง ตลอดจนกิจกรรม CSR และการสนับสนุนด้านทุนการศึกษา ทั้งนี้ เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกันกับทุกภาคส่วนได้อย่างยั่งยืน ในการก้าวไปข้างหน้าในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างเต็มศักยภาพ" ดร.ศรุต กล่าวสรุป
เกี่ยวกับ Sea (Thailand)
Sea เป็นผู้นำในการให้บริการอินเทอร์เนตแพลตฟอร์มด้าน Digital Entertainment, e-Commerce และ Digital Financial Services ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน โดยพันธกิจของ Sea คือการทำให้ชีวิตของผู้บริโภคและผู้ประกอบการรายย่อยมีความสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยี กลุ่มบริษัทในเครือ Sea ประกอบด้วย บริษัท การีนา แอร์เพย์ และ ช้อปปี้ นอกจากนี้ Sea ยังเป็นบริษัทที่ได้รับการจดทะเบียนในตลาดทุน NYSE โดยใช้สัญลักษณ์ SE
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit