ซีไอเอ็มบี กรุ๊ป โฮลดิ้ง เบอร์ฮาด ("ซีไอเอ็มบีกรุ๊ป" หรือ "กรุ๊ป") ประกาศกำไรก่อนหักภาษีจำนวน 1.60 พันล้านริงกิตในไตรมาสแรก 62 โดยถ้าเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน กำไรก่อนภาษีลดลง 8.0% จากรายได้จากการปฏิบัติงานที่ลดลง และค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานเพิ่มขึ้น 7.5% อย่างไรก็ดี ได้รับการออฟเซ็ตจากการตั้งสำรองหนี้สูญที่ลดลง 25.2% สำหรับรายได้จากการปฏิบัติลดลง 3.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนสืบเนื่องจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลง และรายได้จากการขาย CIMB Securities International (CSI) จำนวน 152 ล้านริงกิตเมื่อปีก่อน ไม่ได้เกิดขึ้นในปีนี้ ทำให้รายได้จากการปฏิบัติงานปีนี้เติบโตลดลง ด้านกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ปี 62 จำนวน 1.19 พันล้านริงกิต ลดลง 8.7% จากปีก่อน ส่งผลให้กำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 12.5 เซน และ ROE โดยเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 9.2%
"แม้กำไรก่อนภาษีจะลดลง 8.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 1.60 พันล้านริงกิต แต่ผลการดำเนินงานไตรมาสเทียบไตรมาสปรับตัวดีขึ้น 6.0% นับว่าเราสามารถก้าวผ่านความท้าทายในตลาดหลักของเราได้สำเร็จ ผลการดำเนินงานรายไตรมาสดีขึ้นจากรายได้จากการปฏิบัติงานในไตรมาสแรกปีนี้ ที่ขับเคลื่อนจากผลการดำเนินในไทยและสิงคโปร์ที่แข็งแรงขึ้น ROE ของเรามาอยู่ที่ 9.2% และเรามีความยินดีที่เงินกองทุนขั้นที่ 1 แข็งแกร่งขึ้นมาที่ระดับ 12.8% ในขณะที่ loan loss charge ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 0.34%" เต็งกู ดาโต๊ะ ศรีร ซาฟรูล อาซิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มซีไอเอ็มบี กล่าว
"เราคาดว่าจะยังคงเผชิญความท้าทายช่วงที่เหลือของปี 62 ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าและคลื่นลมของเศรษฐกิจระดับมหภาค ประกอบกับเงื่อนไขทางด้านการปฏิบัติงานที่ยากขึ้นเรื่อยๆในตลาดหลักๆ ของเรา อย่างไรก็ตาม เรามั่นใจว่ายุทธศาสตร์ Forward23 ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ล่าสุดของเราจะเร่งการเติบโตและพิสูจน์อนาคตของ CIMB ผ่านการลงทุนเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดของลูกค้า พนักงานของเรา และเทคโนโลยี" เต็งกู ซาฟรูล กล่าวทิ้งท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit