โดยบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและมาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยสำหรับผู้ให้บริการนำส่งข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้มาใช้บริการ โดยได้ตกลงกันให้ สพธอ. เป็นหน่วยตรวจรับรองระบบสารสนเทศของผู้ให้บริการนำส่งข้อมูล e-Tax Invoice & e-Receipt"
ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า "ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการสร้างความร่วมมือระหว่าง 2 หน่วยงานระดับประเทศ ในการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดทำเอกสารเกี่ยวกับระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ของกรมสรรพากร RIVE ในด้าน Digital Transformation และตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ โดยกรมสรรพากรเปิดให้มีผู้ให้บริการนำส่งข้อมูล e-Tax Invoice & e-Receipt เป็นตัวแทนนำส่งข้อมูลมายังกรมสรรพากรได้ โดยต้องผ่านการตรวจรับรองมาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยจาก ETDA ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยมีความเชื่อมั่นในมาตรฐานของตัวแทน และมีทางเลือกในการใช้ตัวแทน แทนการพัฒนาระบบเอง สร้างความสะดวกและลดต้นทุนในการดำเนินการได้
นอกจากนี้ กรมสรรพากรยังมีการออกมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2562 โดยมีมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับรายจ่ายที่ได้จ่ายไป ตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย. 2562 - 31 ธ.ค. 2562) เพื่อลงทุนในระบบการจัดทำเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ การจัดซื้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เก็บใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นใดที่ใช้ร่วมกับคอมพิวเตอร์ ค่าบริการใช้พื้นที่เก็บข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และค่าบริการที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ให้บริการนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ที่ได้จ่ายไปเพื่อประโยชน์ ในการจัดทำ ส่งมอบ หรือเก็บรักษาใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับกิจการของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น เป็นจำนวนเงินร้อยละหนึ่งร้อยของรายจ่ายตามจำนวนที่จ่ายจริง ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาที่กำหนด"
นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า "ภารกิจของ ETDA นอกจากงานผลักดันด้านอีคอมเมิร์ซของประเทศแล้ว ETDA ยังสนับสนุนและส่งเสริมให้การทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มีความมั่นคงปลอดภัย มีมาตรฐาน ซึ่งเป็นอีกเรื่องที่ ETDA ให้ความสำคัญมากเช่นกัน
สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการต่อยอดและสนับสนุนโครงการ National e-Payment ในด้านเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี ผ่านโครงการ e-Tax invoice และ e-Receipt ซึ่งถือว่าเป็นการสนับสนุนและผลักดันการนำส่งใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ประกอบการ ในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการที่มีข้อจำกัดในการจัดเตรียมระบบนำส่งข้อมูลใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ เช่น กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย SMEs การมีตัวแทนจะช่วยลดทุนและเพิ่มความสะดวกในการนำส่งข้อมูลใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ให้กรมสรรพากร ซึ่งตัวแทนจะต้องมีระบบที่ผ่าน การตรวจสอบรับรองทางด้านความมั่นคงปลอดภัยที่สอดคล้องกับข้อเสนอแนะมาตรฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารที่จำเป็นต่อธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศสำหรับ ผู้ให้บริการจัดทำ ส่งมอบและเก็บรักษาข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (INFORMATION SECURITY FOR DATA MESSAGE GENERATION, TRANSFER AND STORAGE SERVICE PROVIDERS) โดย ETDA จะออกหนังสือรับรองระบบสารสนเทศฯ ให้กับผู้ผ่านการตรวจประเมินฯ ซึ่งจะต้องนำผลการตรวจฯ ที่ได้รับยื่นต่อกรมสรรพากร เพื่อใช้พิจารณาในขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ประกอบการที่จะเลือกใช้บริการจากผู้ให้บริการที่มีมาตรฐาน และยังเป็นการส่งเสริมให้การดำเนินงานของกรมสรรพากรในเรื่องของการจัดเก็บภาษีมีความมั่นคงปลอดภัย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่ง ETDA จะเตรียมเปิดให้บริการดังกล่าวในเร็ววันนี้
ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวสรุปทิ้งท้ายว่า ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นการนำความเชี่ยวชาญของ 2 หน่วยงานระดับประเทศ มาร่วมกันสนับสนุนยุทธศาสตร์ของประเทศ โดยกรมสรรพากรสนับสนุนให้เกิดระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ในขณะที่ ETDA ส่งเสริมให้ การดำเนินการดังกล่าวมีความมั่นคงปลอดภัยและมีมาตรฐาน กรมสรรพากรหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการให้ผู้ให้บริการนำส่ง e-Tax Invoice & e-Receipt นี้ จะสร้างความสะดวกและลดต้นทุนในการดำเนินการให้กับผู้ประกอบการได้อย่างเป็นรูปธรรม
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit