นพ. ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ผู้นำธุรกิจดูแลสุขภาพอย่างครบวงจรและบริการที่มีคุณภาพด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ภายใต้แนวคิด 'ปกป้องดูแลความสุขและสุขภาพคนไทยทุกช่วงชีวิต' (Lifetime Health Guardian For All) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ วางแผนเปิดให้บริการโรงพยาบาลใหม่อีก 1 แห่งในพื้นที่ภาคใต้ ในช่วงปลายไตรมาส 3/2562 ได้แก่ รพ.ธนบุรี ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อกระจายการให้บริการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง จากปัจจุบันที่กลุ่มบริษัทฯ มีโรงพยาบาลที่เปิดบริการแล้วในประเทศไทย 6 แห่ง แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 3 แห่ง ได้แก่ รพ.ธนบุรี รพ.ธนบุรี 2 และ รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง ในต่างจังหวัด 3แห่ง ได้แก่ รพ.ราษฎร์ยินดี จ.สงขลา รพ.อุบลรักษ์ ธนบุรี จ.อุบลราชธานี และ รพ.สิริเวช จ.จันทบุรี มีเตียงจดทะเบียนรวมกว่า 1,100 เตียง
สำหรับ รพ.ธนบุรี ทุ่งสง เป็นโรงพยาบาลระดับทุติยภูมิ ที่สามารถรักษาโรคที่มีความซับซ้อน มีเตียงจดทะเบียนในเบื้องต้น 50 เตียง สามารถขยายกำลังการให้บริการได้ถึง 200 เตียง ห้องตรวจ 12 ห้อง และห้องผ่าตัด 3 ห้อง เริ่มให้บริการตรวจรักษาในแผนกสูตินารีเวช ศัลยกรรม อายุรกรรม และกุมารเวช ส่วนแผนงานในอนาคตตั้งเป้าพัฒนาเป็นโรงพยาบาลที่มีจุดแข็งด้านแผนกฉุกเฉิน การรักษาโรคกระดูกและสมอง เพื่อเป็นทางเลือกการให้บริการดูแลสุขภาพแก่ผู้ป่วยในพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากนี้สามารถส่งต่อผู้ป่วยเข้ารับการรักษาต่อเนื่องที่ รพ.ราษฎร์ยินดี จ.สงขลา และศูนย์หัวใจที่ รพ.พัทลุง ในเครือข่าย THG ได้อีกด้วย
"นครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดเศรษฐกิจที่มีศักยภาพ โดยมีจำนวนประชากรมากที่สุดและมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ในภาคใต้ คาดว่า รพ.ธนบุรี ทุ่งสง จะสามารถให้บริการเพื่อรองรับผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี และเพิ่มความแข็งแกร่งของเครือข่ายโรงพยาบาลในเครือ THG ในภาคใต้ ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการจะส่งผลดีต่อการรับรู้รายได้ของบริษัทฯ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายเช่นกัน" นพ.ธนาธิป กล่าว
รองประธานกรรมการ THG คาดว่าแนวโน้มของภาพรวมรายได้ในปี 2562 จะเติบโตได้ตามเป้าหมาย จากธุรกิจโรงพยาบาลในประเทศที่ให้บริการในปัจจุบัน และเพิ่มเติมจากโรงพยาบาลแห่งใหม่ที่เปิดไปแล้ว รวมถึงที่เตรียมเปิดให้บริการ ส่วนการดำเนินงานของโรงพยาบาลในต่างประเทศ ได้แก่ Ar Yu International Hospital ในเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ และ Welly Hospital ในประเทศจีน คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยตั้งเป้ามี EBITDA (กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย) ถึงจุดคุ้มทุนในสิ้นปีนี้หรือต้นปี 2563
นอกจากนี้ รายได้รวมของ THG จะได้รับผลดีจากการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ รังสิต (Jin Wellbeing County) รังสิต ซึ่งมียอดโอนแล้ว 65 ยูนิต และมียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ (แบ็กล็อก) อีก 85 ยูนิต รวมถึงตั้งเป้ามียอดโอนกรรมสิทธิ์ในปีนี้ประมาณ 200 ยูนิต โดยช่วงครึ่งหลังของปีนี้เตรียมเปิดให้บริการสถาบันจิณณ์เวลเนส ดูแลสุขภาพองค์รวม และโรงพยาบาลธนบุรีบูรณา ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของโครงการเช่นกัน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit