“ไทคอน” จับมือ “เอสทีที จีดีซี” ลุยพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกในประเทศไทย ทุ่มงบกว่า 7.3 พันล้าน ชูศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่มาตรฐานระดับโลก รองรับความต้องการตลาดดิจิทัล

18 Dec 2018
"ไทคอน" ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ในระหว่างขออนุมัติการเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เพื่อดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อ บริษัท เฟรเซอร์พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำการให้บริการสมาร์ทแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม จับมือ "เอสทีที จีดีซี" บริษัทชั้นนำด้านการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์จากสิงคโปร์ในสัดส่วนการลงทุน 51:49 ตามลำดับ เผยเตรียมร่วมกันพัฒนาออกแบบและสร้างอาคารดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกบนที่ดินขนาดพื้นที่กว่า 15 ไร่ ย่านรามคำแหงใจกลางกรุงเทพฯ
“ไทคอน” จับมือ “เอสทีที จีดีซี” ลุยพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกในประเทศไทย ทุ่มงบกว่า 7.3 พันล้าน ชูศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่มาตรฐานระดับโลก รองรับความต้องการตลาดดิจิทัล

สืบเนื่องจากแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติ ประเทศไทย 4.0 และแผนแม่บทเศรษฐกิจดิจิทัลแห่งชาติที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล คาดว่าเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) จะมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมีส่วนทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของไทย (GDP) ในปี 2570 เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 25 ขณะเดียวกันการใช้บริการคลาวด์สาธารณะ (Public Cloud) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกโดยไม่รวมประเทศญี่ปุ่นมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นตามอัตราการเติบโตประจำปี (CAGR) อยู่ที่ร้อยละ 32.58 ในระหว่างปี 2559 ถึงปี 2564 ซึ่งการเพิ่มขึ้นของระบบดิจิทัลและการนำเทคโนโลยีมาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกิจจะส่งผลต่อกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเพิ่มขีดความสามารถด้านโครงสร้างพื้นฐานและความสามารถของศูนย์ข้อมูลในประเทศไทยและภูมิภาค

นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "เราเชื่อมั่นถึงศักยภาพของตลาดในการขยายธุรกิจให้สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยและการเปลี่ยนแปลงรูปแบบวิถีชีวิตชุมชนเมืองตามแนวคิดเมืองอัจฉริยะ (Smart Cities) ทั้งนี้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบดิจิทัลของศูนย์กลางดาต้าเซ็นเตอร์ให้มีความทันสมัยคืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันให้เราก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจรูปแบบใหม่อย่างเต็มตัว เราจึงมีความยินดีที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ เอสทีที จีดีซี ซึ่งถือเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการผนึกความแข็งแกร่งของทั้งสองบริษัทจะช่วยให้เราสามารถส่งมอบบริการเพื่อตอบสนองแผนการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัลของลูกค้าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด"

ด้าน นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า "เราได้ดำเนินธุรกิจตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มอุตสาหกรรมในประเทศไทยด้วยบริการด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมที่มีมาตรฐานระดับสากลมานานกว่า 28 ปี การร่วมทุนในครั้งนี้จะช่วยขยายการบริการด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีของไทคอนให้เปิดกว้างมากยิ่งขึ้นจากเดิมที่มุ่งเน้นส่งมอบบริการในฐานะผู้นำการให้บริการสมาร์ทแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม เรามั่นใจว่าด้วยประสบการณ์การให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมของเราที่มีมาอย่างยาวนาน ตลอดจนความเชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงในระดับโลกของ เอสทีที จีดีซี ในการพัฒนาศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์จะสามารถประสานความร่วมมือในการทำงานและเสริมสร้างศักยภาพการเติบโตของธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยได้"

ด้าน มร. บรูโน่ โลเปซ ประธานเจ้าหนาที่บริหารกลุ่ม เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้าเซ็นเตอร์ กล่าวว่า "ความคืบหน้าของการดำเนินธุรกิจร่วมกันครั้งนี้นับเป็นการรุกตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทยครั้งแรกของเอสทีที จีดีซี โดยจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของการขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ชั้นนำทั่วโลก เรามั่นใจว่าความเชี่ยวชาญในการออกแบบ สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ตลอดจนการดำเนินงานด้านดาต้าเซ็นเตอร์ให้ได้มาตรฐานสูงสุด ซึ่งเราให้บริการกระจายตามตลาดหลักๆ ในหลายประเทศ อาทิ สิงคโปร์ จีน อินเดียและอังกฤษ เมื่อผสานความเชี่ยวชาญของไทคอนที่มีความเข้าใจตลาดและความต้องการของลูกค้าในประเทศไทยเป็นอย่างดี จะทำให้เราสามารถเติมเต็มความต้องการของลูกค้าในประเทศไทย และมีส่วนช่วยสร้างการเติบโตทางด้านดิจิทัล รวมถึงเสริมให้ลูกค้าตระหนักถึงความสำคัญของนโยบายประเทศไทย 4.0"

สำหรับในเฟสแรกจะใช้งบประมาณกว่า 7,300 ล้านบาท เพื่อดำเนินการพัฒนาและรองรับการสร้างดาต้าเซ็นเตอร์แบบ Hyperscale ทางบริษัทฯ ได้เริ่มพัฒนาโครงการดาต้าเซ็นเตอร์ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 15 ไร่ในย่านรามคำแหงใจกลางกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างอาคารได้ภายในกลางปี 2562 และจะแล้วเสร็จพร้อมให้บริการแก่ผู้ประกอบการทุกแวดวงธุรกิจได้ในปี 2563

เกี่ยวกับ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างขออนุมัติการเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เพื่อดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อ บริษัท เฟรเซอร์พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำการให้บริการสมาร์ทแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม มุ่งมั่นพัฒนาและต่อยอดธุรกิจเพื่อตอบความต้องการของลูกค้าในโลกอุตสาหกรรม 4.0 ประกอบด้วยธุรกิจภายใต้การดำเนินงาน 3 กลุ่ม ได้แก่ "กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม" ดำเนินธุรกิจในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมแบบครบวงจร ปัจุบันมีพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าภายใต้การบริหารจัดการรวมทั้งสิ้นกว่า 2.7 ล้านตารางเมตร บนทำเลที่ตั้งยุทธศาสตร์กว่า 50 แห่งทั่วประเทศ โรงงานและคลังสินค้าของกลุ่มบริษัทไทคอนมีทั้งแบบพร้อมใช้ (Ready-Built) และสร้างตามความต้องการของลูกค้า (Built-to-Suit) โดยมีบริษัท ไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค จำกัด หรือ TPARK เป็นบริษัทในกลุ่มที่เริ่มดำเนินธุรกิจพัฒนาโลจิสติกส์พาร์ครายแรกในประเทศไทย ขณะเดียวกันไทคอนเริ่มขยายธุรกิจการพัฒนาอาคารอุตสาหกรรมในต่างประเทศ โดยในปี 2558 ไทคอนได้ขยายการลงทุนไปยังประเทศอินโดนีเซียเป็นประเทศแรก "กลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์" ซึ่งได้จับมือพันธมิตรระดับโลกอย่างเอสทีที จีดีซี บริษัทชั้นนำด้านการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์จากสิงคโปร์ รุกตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทย และ "กลุ่มสมาร์ทโซลูชั่น" ที่ผนึกพันธมิตรอย่างจัสท์โค ผู้ให้บริการโคเวิร์กกิ้งสเปซอันดับหนึ่งจากประเทศสิงคโปร์ เพื่อเพิ่มการให้บริการแก่ลูกค้าของไทคอนอย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทไทคอนยังได้จัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TREIT) โดยมี บริษัท ไทคอน แมนเนจเม้นท์ จำกัด หรือ TMAN เป็นผู้จัดการกองทรัสต์ ปัจจุบัน TREIT เป็นกองทรัสต์อุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยด้วยมูลค่าทรัพย์สินกว่า 35,000 ล้านบาท

ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู www.ticon.co.th

เกี่ยวกับ เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้า เซนเตอร์ (เอสทีที จีดีซี)

บริษัท เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้า เซนเตอร์ หรือ เอสทีที จีดีซี (ST Telemedia Global Data Centres – STT GDC) คือผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์รวมกว่า 70 แห่งในประเทศต่างๆ ที่เป็นตลาดสำคัญทางธุรกิจ เช่น สิงคโปร์ จีน อินเดีย และสหราชอาณาจักร เป็นต้น เอสทีที จีดีซี ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ที่สร้างขึ้นตามมาตรฐานสูงสุดของอุตสาหกรรมนี้ มีโซลูชั่นด้านดาต้าเซ็นเตอร์ที่ครบถ้วนตั้งแต่ต้นจนจบและสามารถต่อขยายได้, การเชื่อมต่อ, รวมถึงบริการสนับสนุนต่างๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการด้านการเก็บข้อมูลของลูกค้าทั้งในปัจจุบันและอนาคต

ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู www.sttelemediagdc.com

“ไทคอน” จับมือ “เอสทีที จีดีซี” ลุยพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกในประเทศไทย ทุ่มงบกว่า 7.3 พันล้าน ชูศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่มาตรฐานระดับโลก รองรับความต้องการตลาดดิจิทัล “ไทคอน” จับมือ “เอสทีที จีดีซี” ลุยพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกในประเทศไทย ทุ่มงบกว่า 7.3 พันล้าน ชูศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่มาตรฐานระดับโลก รองรับความต้องการตลาดดิจิทัล “ไทคอน” จับมือ “เอสทีที จีดีซี” ลุยพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกในประเทศไทย ทุ่มงบกว่า 7.3 พันล้าน ชูศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่มาตรฐานระดับโลก รองรับความต้องการตลาดดิจิทัล