นพ.มานัส โพธาภรณ์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลราชวิถี เปิดเผยว่า แคมเปญ "รพ.ราชวิถี ต่อชีวิต เติมบุญ คูณ2" เป็นกิจกรรมหนึ่งในโครงการ "รพ.ราชวิถี ดีต่อใจ ได้ต่อบุญ ปี2" เพื่อรณรงค์ ให้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมสมทบทุนจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ สำหรับศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านการปลูกถ่ายอวัยวะ ที่จะสร้างขึ้นในอาคารศูนย์การแพทย์ราชวิถี จะเปิดให้บริการในกลางปีพ.ศ. 2562 ที่จะถึงนี้ โดยเป็นอาคารสูง 25 ชั้น คาดว่าจะลดความแออัดเรื่องของสถานที่และจะสามารถรองรับผู้ป่วยได้เพิ่มขึ้นเป็นปีละประมาณ 1,500,000 คนต่อปี หรือวันละ 6,000 คน จากเดิมที่รองรับได้ 1,000,000 คนต่อปี ซึ่งอาคารศูนย์การแพทย์แห่งใหม่นี้ จะประกอบไปด้วย ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Center of Excellent) อาทิ ศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านหัวใจและหลอดเลือด ศูนย์ความเป็นเลิศ เฉพาะทางด้านโสต ศอ นาสิก ศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านการผ่าตัดทางกล้อง ศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านสูตินารีเวช ศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านอุบัติเหตุ ศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง(NCD) ศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านการปลูกถ่ายอวัยวะ และศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านจอประสาทตา เป็นต้น แต่ทั้งนี้ยังขาดแคลนทุนทรัพย์ในการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์อีกกว่า 300 ล้านบาท โดยผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมทำบุญในแคมเปญครั้งนี้ นอกจากจะได้ต่อชีวิตผู้ป่วยแล้ว ยังสามารถนำใบเสร็จจากการร่วมทำบุญในแคมเปญ "รพ.ราชวิถี ต่อชีวิต เติมบุญ คูณ2" นำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าอีกด้วย
ทั้งนี้ โรงพยาบาลราชวิถีนับเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในสังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ที่สามารถผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะได้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 และยังเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกที่สามารถผ่าตัดปลูกถ่าย 2 อวัยวะพร้อมกัน คือ หัวใจและปอด สำเร็จเป็นแห่งแรกของประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี พ.ศ. 2532 และต่อมาเริ่มผ่าตัดปลูกถ่าย ตับ ไต รวมถึงเนื้อเยื่อกระจกตา จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะมากกว่า 400 ราย และปลูกถ่ายกระจกตามากกว่า 1,000 ราย และเป็น 1 ใน 4 ของโรงพยาบาลทั่วประเทศ ที่สามารถทำการปลูกถ่ายอวัยวะได้ทั้ง ไต ตับ หัวใจ ปอด ปัจจุบันเป็นโรงพยาบาลที่มีการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะมากที่สุดของโรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และยังมีผู้ป่วยที่รอคอยการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะอีกเป็นจำนวนมาก แต่ด้วยข้อจำกัดหลายประการ ทั้งอุปกรณ์ สถานที่ ทำให้ผู้ป่วยต้องใช้เวลาในการรอคอยการผ่าตัด ปลูกถ่ายอวัยวะนานยิ่งขึ้น ซึ่งศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านการปลูกถ่ายอวัยวะที่จะเกิดขึ้น ในอาคารศูนย์การแพทย์ จะสามารถรองรับผู้ป่วยได้มากยิ่งขึ้น โดยเป็นศูนย์รับส่งต่อผู้ป่วยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข รับส่งต่อผู้ป่วยโรคที่มีความซับซ้อนจากโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศ
ทางด้าน แพทย์หญิงกรทิพย์ ผลโภค นายแพทย์ชำนาญการ งานโรคไต กลุ่มงานอายุรศาสตร์ รพ.ราชวิถี เปิดเผยว่า สถานการณ์การบริจาคอวัยวะในประเทศไทยในปัจจุบัน มีผู้ป่วยสมองตายบริจาคอวัยวะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลล่าสุด ปี พ.ศ. 2560 ผู้ป่วยสมองตายบริจาคอวัยวะคิดเป็น 4.4 ต่อล้านประชากร ทำให้ผู้ป่วยได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะใหม่เพิ่มขึ้นตามลำดับ แต่ยังห่างไกลจากจำนวนผู้ที่รอรับการปลูกถ่ายอวัยวะซึ่งมีมากกว่า 6,000 คน และยังมีผู้ป่วยเสียชีวิตระหว่างรออวัยวะกว่า 200 รายต่อปี
การปลูกถ่ายอวัยวะอาจเป็นทางรอดเดียวในผู้ป่วยโรคหัวใจ ตับ ปอด และไตวายระยะสุดท้าย หรือแก้ไขความพิการ เช่น กระจกตา จากข้อมูลวิจัยสนับสนุนชัดเจนว่า การปลูกถ่ายอวัยวะเพิ่มโอกาสและอัตราในการรอดชีวิตให้กับผู้ป่วย ซึ่งผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะเปรียบเสมือนได้ชีวิตใหม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ กลับมาสร้างประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติได้
ศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางการปลูกถ่ายอวัยวะ ที่จะเกิดขึ้นในอาคารศูนย์การแพทย์ประกอบด้วย ทีมสหวิชาชีพที่จะให้การดูแลผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะอย่างครบวงจร ตั้งแต่รอรับอวัยวะ ผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ และการดูแลผู้ป่วยหลังปลูกถ่ายอวัยวะ และจะสร้างหอผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะเพื่อรองรับผู้ป่วยหลังปลูกถ่ายอวัยวะซึ่งมีภูมิคุ้มกันต่ำ มีโอกาสติดเชื้อแทรกซ้อนสูง โดยทางศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางการปลูกถ่ายอวัยวะ ยังต้องการงบประมาณอีกจำนวนมากที่จะติดตั้งระบบกรองอากาศในหอผู้ป่วยเพื่อรองรับผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำ และจัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ ที่ใช้สำหรับศูนย์ฯ ตามมาตรฐานสากล
นอกจากอุปกรณ์ต่างๆในการรักษาแล้ว ยังเป็นงบประมาณในการที่จะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ป่วยที่ด้อยโอกาส ให้ได้มีโอกาสในการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ เนื่องจากในการปลูกถ่ายอวัยวะ เป็นการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ผู้ป่วยหลายรายมีข้อจำกัดในเรื่องสิทธิ์การรักษา เช่น สิทธิ์การรักษาไม่ครอบคลุมการปลูกถ่ายอวัยวะ หรือมีค่าใช้จ่ายส่วนเกินจากสิทธิ์ที่มีอยู่ เช่น ค่าใช้จ่ายการผ่าตัด ปลูกถ่ายตับ ตั้งแต่ 500,000 ถึง 1,300,000 บาท โดยยังไม่รวมค่าใช้จ่ายยากดภูมิหลังปลูกถ่าย อีก 2 - 4 แสนบาทต่อปี โดยโรงพยาบาลจะต้องให้ความอนุเคราะห์ค่ารักษาสำหรับผู้ป่วยด้อยโอกาส ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลยังได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี ในการช่วยเหลือ ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยที่รายได้น้อย ซึ่งนับเป็นนโยบายของมูลนิธิในการให้ความช่วยเหลือกิจการ ของโรงพยาบาล ในด้านการบริการผู้ป่วย
ศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ ยังคงมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณ ในการจัดหาเครื่องมือแพทย์ให้พร้อมบริการผู้ป่วย ดังนั้นจึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับแคมเปญ "รพ.ราชวิถี ต่อชีวิต เติมบุญ คูณ2" โดยสามารถร่วมบริจาคได้ที่ ชื่อบัญชี "เงินบริจาคของโรงพยาบาลราชวิถี" หมายเลขบัญชี 051-276128-1 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาโรงพยาบาลราชวิถี (ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า)หรือ สอบถามโทร 02-3548108-37 ต่อ 3032 หรือกรอกข้อมูลผ่านเว็บเพื่อขอใบเสร็จรับเงิน http://www.rajavithi.go.th มาร่วมต่อชีวิตให้กับผู้ป่วยที่รอโอกาสทางการรักษา ให้มีโอกาส ได้กลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัว และทำประโยชน์เพื่อสังคม พร้อมการเติมบุญให้กับตนเองด้วยการ ลดหย่อนภาษี 2 เท่า ได้ทั้งบุคคลธรรมดา บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ตามประกาศมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกด้วย.....
ทั้งนี้มีศิลปินดาราสายบุญมาร่วมรณรงค์ ในแคมเปญ "รพ.ราชวิถี ต่อชีวิต เติมบุญ คูณ2" คือ อาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี, คุณต้อม - ไกรวิทย์ พุ่มสุโข, ปาล์ม อินสติงค์ - ปรียวิศว์ นิลจุลกะ, คุณปั้น แบชเชอร์ - เจษฎา ลัดดาชยาพร, คุณหนู มิเตอร์ -สร่างศัลย์ เรืองศรี, คุณปราโมทย์ วิเลปะนะ, คุณบี๋ - คณาคำ อภิรดี, คุณหนึ่ง - อิสริยา คูประเสริฐ, คุณธรรมรัตน์ อภิรดี, คุณโจว - ศิลป์กวี เชาว์มณีเดชานนท์ , คุณโรเชล – รัญญภัสร์ ลาแบรซ, คุณบอลลูน – ญาณัณญา ศรีม่วง , คุณอ๊อฟซี่ – รัญชน์ชลิตดา ช่างเหลา, คุณเก่ง-อธิป เจริญชัยสกุลสุข
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit