รศ.นพ.ทรงกลด เอี่ยมจตุรภัทร ศัลยแพทย์ด้านโสต ศอ นาสิกวิทยา โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า การรักษาไซนัส ในปัจจุบันจะใช้กล้องผ่านทางช่องจมูกช่วยในการผ่าตัดเกือบทั้งหมด การใช้กล้องมาช่วยทำผ่าตัดไซนัสนั้น มีการใช้อย่างแพร่หลายไม่น้อยกว่า 30 ปี มีการพัฒนาทั้งอุปกรณ์และเทคนิคในการผ่าตัดมาตลอด จนปัจจุบันนอกเหนือจากใช้ในการผ่าตัดไซนัสแล้ว ยังใช้กล้องช่วยในการผ่าตัดโรคของอวัยวะข้างเคียงต่างๆ อีกมาก เช่น ผ่าตัดแก้ไขท่อน้ำตาส่วนล่างอุดตัน ผ่าตัดแก้ไขตาโปน ผ่าตัดลดแรงกดต่อเส้นประสาทตา ผ่าตัดซ่อมน้ำสมองรั่วเข้าโพรงจมูก - ไซนัส ผ่าตัดเนื้องอกของต่อมใต้สมอง และผ่าตัดเนื้องอกที่ฐานกะโหลกส่วนหน้า เป็นต้น การจะเข้ารับการผ่าตัดไซนัสแบ่งเป็น 2 กรณีคือ 1) กรณีที่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด เช่น เป็นไซนัสอักเสบและมีโรคแทรกซ้อน มี 2 แบบ คือ อักเสบติดเชื้อลามเข้าไปในตาและอักเสบติดเชื้อลามเข้าไปในสมอง สงสัยว่าเป็นเนื้องอก ไซนัสอักเสบจากเชื้อรา ช่องเปิดไซนัสตันแล้วมีมูกคั่งในไซนัสเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 2) กรณีที่จะผ่าตัด หมายถึงว่า ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด แต่ก็น่าจะผ่าตัด โดยการผ่าตัดเป็นทางเลือกและได้ประโยชน์มากกว่าการไม่ผ่าตัด ในกรณีนี้ ได้แก่ ผู้ที่มีอาการของไซนัสอักเสบเรื้อรังหรือแบบเฉียบพลันที่เป็นๆ หายๆ หรือมีริดสีดวงจมูกที่ใช้ยาที่เหมาะสมแล้วไม่ได้ผล (ระยะเวลาการใช้ยาขึ้นกับความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปประมาณ 1 - 3 เดือน)
วิธีการผ่าตัด โดยทั่วไปจะใช้วิธีดมยาสลบในการผ่าตัด และใช้กล้องสอดผ่านช่องจมูกเข้าไปในบริเวณที่จะผ่าตัด แล้วมีเครื่องมือสอดตามเข้าไปทำการผ่าตัด ในปัจจุบันมีการพัฒนาเครื่องมือมากขึ้น เพื่อให้มีความสะดวกในการผ่าตัด สามารถตัดเนื้อเยื่อที่เป็นโรคที่ต้องการตัดได้ดี ลดการรบกวนเนื้อเยื่อส่วนดีที่ไม่ต้องการตัดได้ ทำให้มีเลือดออกน้อย ผ่าตัดเสร็จแล้วไม่ต้องใส่วัสดุห้ามเลือดในจมูกมาก หลังผ่าตัดคนไข้จึงเจ็บแผลน้อย สามารถหายใจทางจมูกได้ดี การทำผ่าตัดมีหลายแบบคือ 1.Balloon Sinuplasty 2.Minimally Invasive Sinus Technique 3.Functional Endoscopic Sinus Surgery (FESS) และ4.Full-House FESS
ซึ่งการผ่าตัดไซนัสจะเลือกเป็นวิธีการผ่าตัดแบบไหนและส่วนไหนบ้างนั้นขึ้นอยู่กับผู้ป่วยแต่ละราย โดยมีข้อมูลเบื้องต้นเป็นความรู้คือ 1. ไซนัสเป็นอวัยวะที่มีประโยชน์และธรรมชาติสร้างให้มีโครงสร้างในจมูกที่ป้องกันไม่ให้โพรงไซนัสสัมผัสกับช่องจมูกโดยตรง 2. การผ่าตัดไซนัสเป็นการทำให้ช่องเปิดของไซนัสกว้างขึ้นและเปิดช่องทางเดินของมูกของไซนัสให้เชื่อมเข้ากับช่องจมูกโดยตรง มูกในไซนัสจึงขับออกทางจมูกได้ง่ายขึ้น หรือเวลาล้างจมูก น้ำเกลือก็เข้าไปล้างในไซนัสได้ ถ้าใช้ยาผสมในน้ำเกลือ ยาก็สามารถเข้าไปถึงเยื่อยุผิวได้ดี แต่ในทางกลับกัน เมื่อมีอะไรในจมูก สิ่งนั้นๆ ก็จะเข้าไปในไซนัสได้ง่ายขึ้นเหมือนกัน เช่น เวลาเป็นไข้หวัด (โรคจมูกอักเสบจากไวรัส) ก็จะมีไซนัสอักเสบจากไวรัสได้มากและขึ้น ถ้าผ่าตัดแบบเปิดกว้างมากเช่น Full-House FESS ไซนัสทั้ง 5 ไซนัสก็จะต่อเป็นโพรงเดียวกับช่องจมูก การจะผ่าตัดจึงต้องมีข้อบ่งชี้ที่ชัดเจน การมีข้อบ่งชี้ในการทำผ่าตัดหมายความว่ามีการศึกษาในวงกว้างมาแล้วว่าการผ่าตัดมีความจำเป็นหรือได้ประโยชน์มากกว่าการไม่ผ่าตัด การผ่าตัดไซนัสจะพิจารณาผ่าตัดเฉพาะในส่วนที่ควรผ่า และไม่ผ่าตัดในส่วนที่ไม่จำเป็น ผู้ป่วยแต่ละรายจะมีสาเหตุของโรคและวัตถุประสงค์ในการผ่าตัดที่ไม่เหมือนกัน วิธีการผ่าตัดจึงอาจไม่เหมือนกันทั้งหมดในผู้ป่วยแต่ละราย แพทย์จะให้แนะนำเลือกวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสม ดูว่าไซนัสอักเสบแบบไหนจะเลือกใช้การผ่าตัดแบบไหนจึงจะได้ผลดีที่สุด และมีผลกระทบต่อไซนัสส่วนที่เหลือน้อยที่สุด เนื่องจากไซนัสอยู่ติดกับดวงตา สมอง เส้นประสาทตา และเส้นเลือดแดงใหญ่ที่ไปเลี้ยงสมอง การผ่าตัดจึงมีความเสี่ยง แต่ปัจจุบันมีเครื่องมือที่เรียกว่าเครื่องนำวิถีในการผ่าตัด (Navigator) ช่วยให้การผ่าตัดมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ อวัยวะบริเวณ หู คอ จมูก ศีรษะและลำคอ เป็นอวัยวะที่ซับซ้อน การตรวจวินิจฉัยโรคต่างๆ จึงจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจอย่างละเอียด บวกกับการใช้เทคโนโลยีในการตรวจอย่างเหมาะสม สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ศูนย์หู คอ จมูก กรุงเทพ รพ.กรุงเทพ โทร.1719
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit