แลมเบรตต้า (Lambretta) ตำนานสกู๊ตเตอร์คลาสสิคสายพันธุ์อิตาลี ที่มีประวัติยาวนานกว่า 71 ปี ปลุกตำนานให้กลับมาบุกตลาดเมืองไทยอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก โดยส่งรุ่น V-Special นำร่องลงสู่สังเวียน กับ 2 โมเดล ได้แก่ V125 และ V200 โดยสเปครถทั้ง 2 รุ่นนี้ ที่นำมาจำหน่ายในประเทศไทยนั้น จะมาพร้อมเครื่องยนต์สูบเดี่ยว 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยอากาศ โดยจุดเด่นอยู่ที่โครงตัวถังชั้นในที่ทำจากเหล็กกล้าหนา 1.2 มิลลิเมตร Cover ด้วยพลาสติก abs ซึ่งทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับระบบเบรกแบบ CBS (Combine Brake System) และจานดิสก์เบรกทั้งหน้าและหลัง พร้อมด้วยไฟ LED รอบคัน โดยที่เก็บของด้านหน้ามีช่องให้เสียบชาร์จ USB และ มีระบบรักษาความปลอดภัยอีกขั้น โดยหากเลื่อนสวิตช์ไปที่ Lock จะทำให้ไม่สามารถ Start รถได้ นอกจากนี้มาตรวัดความเร็วยังเป็นแบบอนาล็อกผสมกับดิจิตอล ที่แสดงแรงดันไฟฟ้า, เวลา, และระยะทาง ซึ่งในรุ่น V125 โช๊คหน้าที่ให้มาจะเป็นแบบ Telescopic forks และโช๊คหลังเป็นแบบเดี่ยว ส่วนในรุ่น V200 โช๊คหน้าที่ให้มาจะเป็นแบบ Telescopic forks เช่นเดียวกัน และ พิเศษสุด มาพร้อมกับโช๊คหลังแบบคู่
คุณสุภัทร พลังนฤพุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไดนามิค มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า " บริษัทได้ทำการเปิดตัวแลมเบรตต้า (Lambretta) ในงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย โดยรุ่นที่นำมาจัดจำหน่ายและเปิดรับจองภายในงานนั้น ได้แก่รุ่น V-Special ประกอบด้วยรุ่น V125 และ V200 ซึ่งหลังจากที่ได้ทำการเปิดตัวกันไป ก็ได้รับความสนใจอย่างมากจากกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบรถสกู๊ตเตอร์คลาสสิค จนทำให้มียอดจับจองเกินความคาดหมาย สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในงาน เพราะแม้ว่าแลมเบรตต้า (Lambretta) เองจะมีประวัติมายาวนาน แต่ก็ถือว่าเป็นแบรนด์ใหม่ที่พึ่งเข้ามาทำตลาดอย่างเป็นทางการในบ้านเราครับ"
เรียกได้ว่า เป็นที่จับตามองเป็นอย่างมาก สำหรับ แลมเบรตต้า (Lambretta) ที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วกับยอดจองถล่มทลาย ซึ่งเราก็คงจะได้เห็นแลมเบรตต้า (Lambretta) อวดโฉมความเก๋าระดับตำนานกันตามท้องถนนเมืองไทยในอีกไม่นานนี้ และสำหรับใครที่สนใจ แลมเบรตต้า (Lambretta) ก็สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/Scooters.Lambretta
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit