หลังถูกคนร้ายเข้าถึงอีเมล์และเฟซบุ๊กของตนใช้ชื่อBunyita Ngamsappasin และโพสข้อความแอบอ้างเป็นตนเองทำให้ได้รับความเสียหาย จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวัน พร้อมนำหลักฐานเป็นเอกสารภาพและข้อความต่างๆ มาแสดงเพื่อปกป้องชื่อเสียงตนเอง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ซึ่งเข้าข่ายตามความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 5 ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ก้อย บุญญิตา เปิดเผยว่า ช่วงเย็นวันที่ 23 ธันวาคม 2561 มีเพื่อนในเฟซบุ๊กโทรศัพท์ผ่านแมสเสจเจอร์มาแจ้งว่าตนเองได้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวโทรไปหาผู้อื่นหลายครั้งโดยตนเองไม่ได้เป็นผู้ที่โทรไป จึงทำให้ทราบว่ากำลังมีคนพยายามเข้าเฟซบุ๊กสวมรอย จึงอยากจะแจ้งให้ทราบว่าเฟซบุ๊กชื่อ Bunyita Ngamsappasin ถูกคนร้ายสวมรอย หากมีการติดต่อไปยังบุคคลอื่นๆ นั้นไม่ใช่ตัวจริง วันนี้จึงเดินทางมาเพื่อลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน เพราะกลัวว่าจะถูกคนร้ายใช้เฟซบุ๊กของตนเองไปหลอกลวงเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ พร้อมฝากถึงแฟนรายการข่าวช่อง 8 และเพื่อนๆทุกคนว่า ตอนนี้ตนเองไม่มีเฟซบุ๊ก หากใครใช้เฟซบุ๊ก ชื่อบุญญิตาทักไปอย่าพูดคุย และขอให้แจ้งสแปม เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายนำไปใช้ก่อเหตุ
ขณะที่พนักงานสอบสวนระบุว่า หลังจากนี้จะได้สอบปากคำผู้เสียหายและตรวจสอบ IP แอดเดรสเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งจากพฤติกรรมของคนร้ายจะเข้าข่าย ความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ ในข้อหาผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึง ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกินหกเดือนเราปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit