มหกรรมสินค้าเกษตร “ไห่หนาน วินเทอร์ แฟร์ 2561” ปิดฉากงดงาม เม็ดเงินสะพัดเกือบ 8 หมื่นล้านหยวน

21 Dec 2018
มหกรรมแสดงสินค้าเกษตรเขตร้อน 2018 China (Hainan) International Tropical Agricultural Products Winter Trade Fair หรือ ไห่หนาน วินเทอร์ แฟร์ 2561 ปิดฉากลงเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยในระหว่าง 5 วันของการจัดงาน ได้มีการการลงนามข้อตกลงหลายฉบับ รวมมูลค่า 7.7237 หมื่นล้านหยวน ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุด นอกจากนี้ งานนี้ยังเป็นโอกาสอันดีสำหรับการแลกเปลี่ยนและความรวมมือระดับนานาชาติ อีกทั้งยังเป็นเวทีที่สำคัญสำหรับมณฑลไห่หนานในการเดินหน้าพัฒนาเกาะเขตร้อนแห่งนี้ให้เป็นเขตการค้าเสรีนำร่อง และท่าการค้าเสรีตามแบบฉบับของจีน

ในพื้นที่จัดแสดง "Belt and Road" International Pavilion ได้มีการนำสินค้าจากต่างประเทศมาจัดแสดงมากมายหลายรายการ อาทิ เสต็กเนื้อบราซิล กาแฟเวียดนาม ไวน์แดงฝรั่งเศส ทุเรียน "ราชาแมวภูเขา" จากมาเลเซีย เสื่อยางพาราจากไทย กาแฟดำจากศรีลังกา น้ำมันดอกกุหลาบจากบัลแกเรีย และสินค้าหัตถกรรมอันวิจิตรประณีตจากเนปาล ซึ่งล้วนแล้วแต่ดึงดูดผู้ซื้อชาวจีนได้เป็นจำนวนมาก

สำหรับในปีนี้ ทางคณะกรรมการจัดงานได้เชิญบริษัทต่างชาติจำนวน 138 แห่ง และแขกชาวต่างชาติกว่า 50 ราย จาก 34 ประเทศและภูมิภาคในแอฟริกา ตลอดจนประเทศต่าง ๆ ตามเส้นทางสายไหมใหม่ ซึ่งรวมถึงมองโกเลีย รัสเซีย บัลแกเรีย ปาปัวนิวกินี มอริเชียส และฟิลิปปินส์ มาร่วมงาน พร้อมยกขบวนสินค้ามาจัดแสดงมากกว่า 400 รายการ

ในระหว่างการจัดงาน กรมการเกษตรและกิจการชนบทแห่งมณฑลไห่หนาน และเขตอุตสาหกรรมเผิงเซิ่ง ซึ่งเป็นเขตความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศระดับชาติ ได้ลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านสินค้าเกษตรพิเศษระหว่างประเทศอุซเบกิสถานและมณฑลไห่หนาน ขณะที่บริษัท Alejandro Robaina Tobacco Plantation จากคิวบา ได้ทำข้อตกลงมูลค่า 350 ล้านหยวน กับเทศบาลเมืองตานโจว เพื่อร่วมมือกันสร้างพื้นที่เพาะปลูกและผลิตยาสูบ นอกจากนี้ ภายในงานยังได้มีการลงนามสัญญาโครงการการลงทุน 32 ฉบับรวมมูลค่า 4.3697 หมื่นล้านหยวน สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลในระดับนานาชาติของงานนี้ และความสามารถในการดึงดูดการลงทุนของมณฑลไห่หนาน

หลิว ซื่อกุ้ย เลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลไห่หนาน กล่าวว่า ไห่หนานควรใช้ทรัพยากรธรรมชาติเขตร้อนในท้องถิ่น และนโยบายเกื้อหนุนต่าง ๆ ที่ออกโดยรัฐบาลกลางให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งเดินหน้ายกระดับบทบาทด้านการเกษตรเพื่อการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือกับต่างชาติ และมีส่วนร่วมสนับสนุนโครงการ Belt and Road Initiative อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2562 ที่กำลังจะมาถึง ไห่หนานจะมุ่งแสวงหาพันธมิตรด้านการเกษตรจากต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศต่าง ๆ ตามเส้นทางสายไหมใหม่ เช่น อิสราเอล ศรีลังกา ฟิลิปปินส์ และไทย โดยจะเน้นไปที่ความร่วมมือด้านเมล็ดและกล้าพันธุ์ รวมถึงเทคโนโลยีทางการเกษตร

ที่มา: กรมการการเกษตรและกิจการชนบทแห่งมณฑลไห่หนาน

AsiaNet 76857