นางสาวธัญชนก สุดสัตย์ (น้องปฤณ) คณะวิทยาลัยผู้ประกอบการ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเจ้าของธุรกิจส่งออกต้นไม้ Sansevieria Cylindrica หรือว่านงาช้าง เล่าว่า "ธุรกิจขายต้นไม้นี้เริ่มจากที่คุณพ่อเป็นคนชอบปลูกต้นไม้และตนเองได้รับทุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่เพื่อสังคม(Beta Young Entrepreneur) จากวิทยาลัยผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้ ต่อมาเป็นผู้ชนะเลิศโครงการ "Young Ali Hero รุ่น2" ติด 1 ใน 8 ของมหาวิทยาลัยหอการค้าได้ไปศึกษาดูงานสำนักงานใหญ่ของอาลีบาบา ณ เมืองหางโจว ประเทศจีน ได้เรียนรู้การค้าออนไลน์ของอาลีบาบาอย่างจริงจัง หลังจากที่เรากลับมาที่ไทยก็ได้มีลูกค้าติดต่อเข้ามาเพื่อสั่งซื้อสินค้าของเราจากเว็บไซต์อาลีบาบา ก็เลยเป็นที่มาของธุรกิจที่เริ่มต้นมาจากตรงนี้ จุดแข็งของสินค้าเราคือเรามีกำลังการผลิต และส่งออกได้มากกว่า 100,000 – 200,000 ต้นต่อเดือนในตอนนั้น อีกทั้งจากการศึกษาจำนวนคู่แข่งของเราที่มีอยู่ในเว็บไซต์อาลีบาบานั้นยอดการส่งออกมีน้อยกว่าเรามากพอสมควร ส่วนในเรื่องของคุณภาพของต้นไม้เรานั้น ถ้าต้นไม้เรารากไม่แข็งแรง หรือ ต้นไม้ยังไม่มีความสมบูรณ์จะไม่ส่งออกโดยเด็ดขาด ส่วนในเรื่องที่ได้รับการตอบรับและคำชมเป็นอย่างมากคือในเรื่องของแพ็คเกจจิ้งถ้าเป็นทั่วไปเขาจะใช้กล่องค่อนข้างบางเมื่อกว่าสินค้าจะไปถึงมือผู้รับจึงเกิดการแตกหักระหว่างการขนส่งเป็นอย่างมาก แต่ของเราเราเลือกที่จะใช้กล่องที่มีคุณภาพของกระดาษสูงและกันน้ำ มันเลยทำให้ผลกระทบที่เกิดจากการขนส่งน้อยลง ลูกค้าก็เลยชื่นชอบตรงนี้ ที่สำคัญที่สุดอีกประการ คือ ได้รับคำแนะนำและการสอนจากอาจารย์ เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเน้นสร้างสินค้าอย่างมีคุณภาพและตอบสนองตลาดผู้บริโภคในทวีปและประเทศต่างๆ"
"จริงๆ แล้วธุรกิจนี้เราเริ่มต้นทำมาจากเดือนมิถุนายน 2560จนถึงปัจจุบัน ลูกค้าหลักๆ ในตอนนี้มาจากอาลีบาบาโดยส่วนใหญ่ เหมือนอาลีบาบาทำหน้าที่กระจายสินค้าให้เราทำให้ลูกค้าเจอเรา เราเจอลูกค้า มันจึงทำให้โอกาสทางการขายเราเพิ่มมากขึ้นอีกทั้งยังเป็นช่องทางการซื้อขายที่น่าสนใจมาก ยอดขายนั้นโตเกินกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ และมีแนวโน้มว่าจะสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในโซนเอเชีย ตะวันออกกลาง และยุโรป ซึ่งตอนนี้ลูกค้าหลักๆ ของเราจะเป็นในส่วนของตะวันออกกลาง ได้แก่ ประเทศอิรัก อิหร่านและดูไบ ส่วนทวีปยุโรป ได้แก่ประเทศฮอลแลนด์และออสเตรเลีย ซึ่งตอนนี้อยากจะกระจายไปในโซนเอเชียทั้งหมดลูกค้าหลักๆ ของเราจะเป็นประเทศเกาหลีใต้ และมีแผนจะทำการขยายสู่ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ซึ่งตนเองมองว่าเทรนด์สุขภาพต้นไม้ยังไงก็เข้ากับผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ทำให้สุขภาพของเราดีขึ้นนอนหลับง่ายขึ้น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับต้นไม้ไม่ว่าจะเป็นประเภทไหนก็ตามในประเทศไทยเรานั้นมีธุรกิจประเภทนี้มากที่สุดในโลก และต้องการการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้วงการธุรกิจต้นไม้ไทยเติบโตอย่างยั่งยืน มั่นคง" นางสาวธัญชนก กล่าวทิ้งท้าย
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit