อเด็คโก้เผยผลสำรวจ อาชีพในฝันปีเด็กไทยปี 62 “หมอ” ขึ้นอันดับ 1 ส่วน “BNK48” นำโด่งไอดอลขวัญใจเด็กไทยปีนี้

10 Jan 2019
กลุ่มบริษัทอเด็คโก้เผยผลสำรวจ "อาชีพในฝันของเด็กไทย" ครั้งที่ 10 ปี 2562 ในปีนี้ "หมอ" ครองอันดับหนึ่ง อาชีพในฝันเด็กของเด็กไทย แซงแชมป์เก่าอย่างอาชีพ "ครู" ส่วนอาชีพมาแรงได้แก่ ยูทูปเบอร์ เกมเมอร์ และนักแคสเกม ด้านไอดอลขวัญใจเด็กไทยตกเป็นของสาวๆ BNK48 ที่เป็นแบบอย่างด้านความพยายาม มุ่งมั่นทำตามฝัน
อเด็คโก้เผยผลสำรวจ อาชีพในฝันปีเด็กไทยปี 62 “หมอ” ขึ้นอันดับ 1 ส่วน “BNK48” นำโด่งไอดอลขวัญใจเด็กไทยปีนี้

ผลสำรวจอาชีพในฝันเผยเด็กไทยอยากเป็น "หมอ" มากที่สุด แซงแชมป์เก่า "ครู"

จากการสำรวจเด็กไทยที่มีอายุ 7-14 ปี จำนวน 2,684 คน พบว่า อาชีพที่เด็กไทยใฝ่ฝันอยากทำมากที่สุดคืออาชีพ "หมอ" เนื่องจากเป็นอาชีพที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น ได้บุญ และมีรายได้ดี รองลงมาคือ อาชีพ "ครู" ด้วยเหตุผลอยากสอนเด็กไทยให้เป็นคนดีมีความรู้ อันดับสามได้แก่ อาชีพ "นักกีฬา" โดยส่วนใหญ่อยากเป็นนักฟุตบอลเพราะรักในการเล่นฟุตบอล ส่วนอาชีพในฝันของเด็กไทยอันดับสี่ได้แก่อาชีพ "ทหาร" และอันดับห้า ได้แก่ "นักกีฬา E-Sport และ นักแคสเกม" ที่มาแรงติดเทรนด์ Top5 อาชีพในฝันของเด็กไทยปีนี้เป็นปีแรก

นักกีฬา E-Sport เกมเมอร์ และ นักแคสเกม อาชีพมาแรงปี 62

นักกีฬา E-Sport และ นักแคสเกม เป็นอาชีพที่เด็กไทยให้สนใจอย่างมากในปีนี้ เพราะเด็กไทยชอบเล่นเกมส์จึงคิดว่าเป็นอาชีพที่สนุก สามารถสร้างรายได้จากสิ่งที่ชอบและสร้างชื่อเสียงได้ ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจในข้ออื่นๆ ที่พบว่าเด็กไทย 94% ชอบดูยูทูป และกว่า 28% ชอบเล่นเกมส์และเล่นคอมพิวเตอร์ และมีไอดอลในดวงใจเป็นคนดังที่ประกอบอาชีพเหล่านี้ นอกจากนี้ยังพบว่าอาชีพที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ เช่น ยูทูปเบอร์ และ โปรแกรมเมอร์ ก็เป็นอาชีพที่เด็กไทยให้ความสนใจมากขึ้นในปีนี้เช่นกัน

"BNK48" ครองแชมป์ไอดอลขวัญใจเด็กไทย ด้านยูทูปเบอร์ – เกมเมอร์ติดโผเพียบ

ด้านผลสำรวจไอดอลขวัญใจเด็กไทย ผลสำรวจพบว่าเด็กไทยยังคงมองพ่อแม่เป็นไอดอลที่เคารพรักเหมือนทุกปี แต่สำหรับคนดังที่ครองแชมป์ไอดอลขวัญใจเด็กไทยในปีนี้ ได้แก่ ศิลปินกลุ่ม "BNK48" ที่เด็กไทยชื่นชมในความพยายามและความสามารถ โดยมองว่านอกจากจะน่ารัก ร้องเพลงเพราะ และเต้นเก่งแล้ว ยังเป็นแบบอย่างที่ดีด้านความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพัฒนาตัวเอง ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค โดยสมาชิกที่เป็นที่ชื่นชอบของเด็กไทยมากที่สุด ได้แก่ เฌอปราง อารีย์กุล กัปตันวง BNK48

ด้านไอดอลขวัญใจเด็กไทยอันดับสอง ได้แก่ "เก๋ไก๋สไลเดอร์" ยูทูปเบอร์ชื่อดัง ที่เด็กไทยชอบที่ความน่ารักสดใส ตลก ทำคลิปสนุก ขยัน และมีความกตัญญู อันดับสาม ได้แก่ พี่แป้ง "Zbing Z." นักแคสเกมส์คนสวยขวัญใจเด็ก ๆ อันดับสี่ ได้แก่ GOT7 บอยแบนด์จากประเทศเกาหลี และอันดับห้า ได้แก่ "กิตงาย" หรือ กฤษฎา ปิมลื้อ นักกีฬาอีสปอร์ตชื่อดัง ที่เป็นที่ยอมรับของเด็กไทยจากความสามารถในการเล่นเกม

"ขอให้ครอบครัวมีความสุข" พรปีใหม่ที่เด็กไทยอยากได้ในปีนี้

เมื่อถามว่าหากมีพรวิเศษ 1 ข้อ น้องๆ อยากขออะไร? เด็กไทยส่วนใหญ่ตอบว่าขอให้ครอบครัวอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขไปนานๆ รองลงมาได้แก่ ขอให้รวย ขอให้ได้เจอไอดอลที่ชอบ ขอให้สอบผ่านหรือขอให้โลกนี้ไม่มีสอบไปเลย ขอให้ขอพรได้อีกหลายๆ ข้อ รวมถึงคำตอบน่ารักๆ อย่างเช่นขอให้ประเทศไทยสงบสุขอยู่เย็นเหมือนเอลซ่า

เด็กไทยเสนอไอเดียปฏิรูปการศีกษา ยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง ใช้เทคโนโลยีพัฒนาการเรียนการสอน

เมื่อถามถึงไอเดียปฏิรูปการศึกษาว่ารัฐบาลควรทำอย่างไรเพื่อให้การศึกษาของประเทศไทยดีขึ้น ผลสำรวจพบว่าเด็กไทยอยากให้รัฐบาลพัฒนาการศึกษาโดยยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง ส่งเสริมตามความชอบและความถนัด มอบทุนเพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กไทย ให้ความสำคัญกับการพัฒนาครู สนับสนุนอุปกรณ์และสื่อการเรียนการสอนให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลน

นอกจากนี้เด็กๆ ยังเสนอให้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ส่งเสริมการเรียนการสอนให้สนุกสนานและทันสมัยมากขึ้น มีคลังความรู้แบบดิจิทัลไม่จำกัดแค่ในหนังสือเรียน เน้นวิชาคอมพิวเตอร์ สนับสนุนอีสปอร์ต ส่งเสริมเรื่องภาษาต่างประเทศอย่างจริงจัง ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาที่สามอย่าง ภาษาจีน ภาษาเกาหลี และภาษาญี่ปุ่น รวมถึงเพิ่มการสอนทักษะจำเป็นในการเอาตัวรอด เช่น ว่ายน้ำ ศิลปะป้องกันตัว และการปฐมพยาบาล เป็นต้น เพื่อให้เด็กไทยมีความพร้อมสำหรับโลกการทำงานและการใช้ชีวิตในอนาคต

เด็กไทยเสนอไอเดียปฏิรูปการศีกษา ยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง ใช้เทคโนโลยีพัฒนาการเรียนการสอน

เมื่อถามถึงไอเดียปฏิรูปการศึกษาว่ารัฐบาลควรทำอย่างไรเพื่อให้การศึกษาของประเทศไทยดีขึ้น ผลสำรวจพบว่าเด็กไทยอยากให้รัฐบาลพัฒนาการศึกษาโดยยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง ส่งเสริมตามความชอบและความถนัด มอบทุนเพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กไทย ให้ความสำคัญกับการพัฒนาครู สนับสนุนอุปกรณ์และสื่อการเรียนการสอนให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลน

นอกจากนี้เด็กๆ ยังเสนอให้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ส่งเสริมการเรียนการสอนให้สนุกสนานและทันสมัยมากขึ้น มีคลังความรู้แบบดิจิทัลไม่จำกัดแค่ในหนังสือเรียน เน้นวิชาคอมพิวเตอร์ สนับสนุนอีสปอร์ต ส่งเสริมเรื่องภาษาต่างประเทศอย่างจริงจัง ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาที่สามอย่าง ภาษาจีน ภาษาเกาหลี และภาษาญี่ปุ่น รวมถึงเพิ่มการสอนทักษะจำเป็นในการเอาตัวรอด เช่น ว่ายน้ำ ศิลปะป้องกันตัว และการปฐมพยาบาล เป็นต้น เพื่อให้เด็กไทยมีความพร้อมสำหรับโลกการทำงานและการใช้ชีวิตในอนาคต

ผู้บริหารอเด็คโก้แนะพัฒนาทักษะเด็กไทย กุญแจสู่ความสำเร็จในยุคดิจิทัล

คุณธิดารัตน์ กาญจนวัฒน์ ผู้อำนวยการส่วนภูมิภาค – ไทยและเวียดนาม กลุ่มบริษัทอเด็คโก้ประเทศไทย กล่าวว่า "จากผลสำรวจในปีนี้ชี้ให้เห็นว่าเด็กไทยในยุคนี้มีความเป็น Digital Native อย่างเต็มตัว คุ้นเคยกับเทคโนโลยีมาตั้งแต่เกิดและใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันทุกวัน ซึ่งสะท้อนผ่านผลสำรวจที่พบว่าอาชีพอย่างเกมเมอร์และยูทูปเบอร์เริ่มเข้ามาติด Top 5 อาชีพในฝัน และติดโผไอดอลในดวงใจของเด็กไทย"

"มุมมองของเด็กไทยในยุคนี้ต่ออาชีพก็ค่อนข้างน่าสนใจ โดยส่วนใหญ่มองว่าอาชีพที่มีความสุขที่สุดคืออาชีพที่ได้ทำในสิ่งที่ชอบและถนัด และใช้เหตุผลนี้ในการเลือกอาชีพในฝัน ในปีนี้เราจะเห็นว่าเด็กไทยรู้จักอาชีพที่หลากหลายขึ้นตามความสนใจของแต่ละคน เราจะเห็นอาชีพแปลกใหม่เข้ามาในผลสำรวจ เช่น แร็ปเปอร์ นักบรรพชีวินวิทยา ยูทูปเบอร์ นักออกแบบท่าเต้น นักแข่งรถ นักแคสเกม นักดำน้ำ ผู้ประกอบการ ฯลฯ"

"นอกจากนี้เราจะเห็นได้ว่าเด็กไทยมีความตื่นตัวต่อการพัฒนาทักษะ โดยเฉพาะทักษะภาษาต่างประเทศและทักษะทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าส่งเสริม เพราะทักษะเหล่านี้เป็นทักษะสำคัญที่จะช่วยให้เด็กไทยสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต ทุกวันนี้โลกการทำงานเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ในอนาคตผู้คนราว 60% จะประกอบอาชีพที่ไม่ได้มีอยู่ในทุกวันนี้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ผู้ปกครอง สถาบันการศึกษา และภาครัฐ จะร่วมมือกันส่งเสริมเด็กตามพื้นฐานความชอบ ความถนัด พัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับยุคดิจิทัล และนำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อพัฒนาเด็กไทยให้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติในยุคดิจิทัล"

HTML::image( HTML::image( HTML::image(