ปลัด วธ. กล่าวต่อไปว่า ในงานดังกล่าวไทยเข้าร่วมประชาสัมพันธ์ 2 ส่วนได้แก่ (1) พื้นที่สำหรับผู้ประกอบการสินค้าลิขสิทธิ์ที่มีศักยภาพในการขายสินค้า 11 ราย ได้แก่ 1.บ.ทูสปอต คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ bloody bunny 2.บ. โฮเล่น จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์HOLEN 3.บ. สวีท ซัมเมอร์ จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ Majory , Kuro and Friends , Hoshio and Kamomo , The Long Neck Gang และ Mina and Koko 4. บ. ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์The Mask Collection 5.บ. เดอะมั้งค์ สตูดิโอ จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ Sea of Love 6.บ. ทีไอจีเอ จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ Princess Story , Felicia The Happy Horse และ Happy duck 7.บ. โตโมแกรม สตูดิโอ จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ MondSters และ WoofyBoo 8.บ.เอ็กซ์ฮาบิชั่น จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์Rudolph the Awesome 9.บ. ลิฟโฟ่แล็บ จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์Shewsheepและ Kowarepan 10.บ. วิธิตา แอนิเมชั่น จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์OangPondและ Noo-Hin 11.บ. อวามา จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ WarbieYama
2.พื้นที่สำหรับผู้ชนะการประกวดโครงการ Character Licensing Workshop ครั้งที่ 5 จำนวน 3 ทีม ซึ่ง วธ.เป็นผู้สนับสนุนการจัดกิจกรรมดังกล่าว ได้แก่ 1.ทีม Chilling Punpa ผลงานของนางสาวกรวัชรา ชัยวัฒน์และนายชนินทร์ เสือสูงเนิน 2.ทีม RINKO ผลงานของนายสุกฤษฎิ์ จิตต์ชอบและนายสิทธิชัย ปัญญาทิพย์ 3.ทีม LUCKYIM ผลงานของ น.ส.ปนัดดา ราศรี และน.ส.กนกวรรณ รื่นรมย์ ในโอกาสดังกล่าวทางคณะของวธ. จะเข้าร่วมหารือแนวทางการพัฒนาความร่วมมือด้านสื่อบันเทิงไทย-ฮ่องกง และหารือร่วมกับผู้ประกอบการด้านวีดิทัศน์ของสาธารณรัฐประชาชนจีนด้วย คาดว่าบูชประชาสัมพันธ์ของไทยจะสร้างความสนใจจากผู้ร่วมงาน มีการเจรจาธุรกิจ นำรายได้เข้าประเทศ นับเป็นการกระตุ้นและส่งเสริมธุรกิจด้านลิขสิทธิ์และดิจิทัลคอนเทนต์ไทยสู่ระดับนานาชาติ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit