โดยในทริปนี้อุ๋ย ได้ค้นพบความสงบที่เปิดมุมมองทางความคิดได้มากยิ่งขึ้น จากเส้นทางภาคกลาง ในเมืองรองอย่าง จ.อ่างทอง-จ.สิงห์บุรี ภูมิปัญญาแห่งท้องทุ่งของผู้คนริมฝั่งน้ำบนที่ราบภาคกลาง ที่สืบทอดมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา มาทำความเข้าใจระบบแม่น้ำในที่ราบ และความอุดมสมบูรณ์ผ่านลำน้ำน้อย และความหลากหลายสองฝั่งน้ำ รุกขมรดกแห่งแผ่นดิน เมื่อต้นโพธิ์ใหญ่โอบอุโบสถที่วัดสังกระต่าย กราบพระนอนใหญ่แห่งทุ่งโพธิ์ทอง พักโฮมสเตย์บ้านสวนอยู่สุข แล้วเที่ยวย้อนยุคที่บ้านระจัน พักโฮมสเตย์กับชุมชน สนุกกับกิจกรรมเรียนรู้ในท้องถิ่น เลือกเมนูตำรับพื้นบ้าน และของกินตามฤดูกาล กำหนดเส้นทางแบบวงรอบไม่ต้องสิ้นเปลืองพลังงานย้อนไปย้อนมา อย่าลืมเสื้อผ้าฝ้าย โปร่งเบา หมวกใบโปรด รับมือกับแดดจัด อากาศร้อน กระติกน้ำ กล่องข้าว เพื่อลดใช้ถุงพลาสติก
อุ๋ย กล่าวว่า "เมืองแต่ละเมืองย่อมมีเสน่ห์ในตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ และเช่นกันในเมืองรองอย่าง จ.อ่างทองและจ.สิงห์บุรี ก็มีเสน่ห์ต่างๆ ที่เป็นรองไปจากเมืองใหญ่ สิ่งที่ผมได้รับเป็นสิ่งแรกที่เดินทางมาถึงที่นี้นั้นคือความสงบ เมื่อเราได้เห็นความสงบมันนำให้เรามองเหตุสิ่งต่างๆ ได้ชัดยิ่งขึ้น ทำให้ได้รู้ว่าจริงชีวิตคนนั้นง่ายแสนง่าย ปลูกเอง กินเอง และรอยยิ้มจากเพื่อนบ้าน ทั้งหมดนี้เปรียบเหมือนการฟอกลมหายใจให้บริสุทธิ์ เงินทองคือมายา ข้าวปลาคือของจริง ชีวิตคนที่พร้อมจริงๆ คือชีวิตคนที่มีอยู่มีกินและมีปัญญา หากินได้ด้วยตัวเองทั้งยังไม่เดือดร้อนและสร้างมลพิษแก่ผู้คนและธรรมชาติ เรียกได้ว่าที่นี่อาจจะเป็นความสุขอีกรูปแบบหนึ่ง ความสุขเล็กๆที่ไม่เป็นรองใครในเมืองรอง ที่ต้องลอง และคุณจะรัก" โดยโครงการเมืองรอง ต้องลอง ต้องรัก ต้องใส่ใจ เป็นการท่องเที่ยวสร้างสรรค์ ที่มาพร้อมกับการใส่ใจสิ่งแวดล้อม ออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ Low Carbon ณ 9 เส้นทางท่องเที่ยวเมืองรองที่จะทำให้คุณหลงรักและเที่ยวได้อย่างสุขใจโดยไม่ทิ้งภัยให้กับธรรมชาติ สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดตามข่าวสาร และเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการได้ที่เว็บไซต์ https://tourismthailand.org/localtravel หรือติดต่อที่ศูนย์บริการข่าวสารท่องเที่ยว ททท. ได้ที่เบอร์ 1672
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit