นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) (EA) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 3/61 มีรายได้รวม 2,962.93 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,274.58 ล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้นถึง 298.46 ล้านบาท หรือ 30.57% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 976.12 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากปริมาณการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการหาดกังหันที่ในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ ผลิตไฟฟ้าได้สูงถึง 115.15 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น 42.24% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลจากสภาวะฝนตกอย่างต่อเนื่องและกระแสลมแรงตลอดทั้งไตรมาส จึงเป็นปัจจัยบวกต่อโรงไฟฟ้าพลังงานลม อย่างไรก็ตาม ได้ส่งผลกระทบต่อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เช่นกัน กล่าวคือ ทำให้โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ผลิตไฟฟ้าได้ 136.35 ล้านหน่วย ลดลง 7.16% ทั้งนี้ ปัจจุบันเข้าสู่ช่วงไตรมาสที่ 4 ซึ่งผ่านพ้นฤดูฝนแล้ว โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กลับมาผลิตไฟฟ้าได้ตามปกติ
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้างนั้น นายอมรกล่าวว่า "การก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการหนุมาน จ.ชัยภูมิ เป็นไปด้วยดี เราดูแลรายละเอียดทุกด้านด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและมั่นคงแข็งแรง โรงไฟฟ้าแห่งนี้ มีขนาดกำลังการผลิตรวม 260 เมกะวัตต์ (MW)ประกอบไปด้วยโครงการย่อย 5 โครงการ คาดว่าจะเริ่มทะยอยจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในช่วงไตรมาส 4/61 เป็นต้นไป จนครบ 5 โครงการ ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งในส่วนของโซลาร์ฟาร์มและวินด์ฟาร์มของบริษัทฯเพิ่มขึ้นเป็น 664 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทฯ ก็จะแสวงหาโอกาสในการลงทุนในโรงไฟฟ้าใหม่ๆ ต่อเนื่องไป"
"ในส่วนของโรงงานผลิตแบตเตอรี่เฟสที่ 1 อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และคาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการผลิตได้ในปี 2562 โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา เราได้รับเกียรติเป็นอย่างยิ่งจากรัฐบาลไต้หวันเชิญให้เข้าลงนามใน Letter of Intent เพื่อสนับสนุนธุรกิจแบตเตอรี่ของเรา รัฐบาลไต้หวันเห็นถึงความตั้งใจจริงของเราที่เข้าไปลงทุนใน Amita Technologies ถึงร้อยละ 70 และจะนำเทคโนโลยีจากไต้หวันมาขยายการลงทุนในประเทศไทย เพื่อเป็นฐานการผลิตแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออนที่จะป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้า และอื่นๆ EA จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลไต้หวันในด้านข้อมูล การแก้ไขปัญหา และความช่วยเหลือในการดำเนินงานตามที่ EA ต้องการ การแนะนำโอกาสทางธุรกิจให้ ตลอดจนการอำนวยความสะดวกทั้งด้านเทคนิค และด้านธุรกิจระหว่าง EA และบริษัทในไต้หวันอีกด้วย" นายอมรกล่าวในที่สุด
สำหรับผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2561 มีรายได้รวม 9,717.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 998.95 ล้านบาท หรือ 11.46% และมีกำไรสุทธิ4,206.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,284.38 ล้านบาท หรือ 43.96% โดยในส่วนนี้ ได้รวมกำไรทางบัญชีที่เกิดจากการเข้าซื้อหุ้น Amita และบันทึกเข้ามาเพียงครั้งเดียวในไตรมาสที่ 1 จำนวน 894.58 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมกำไรทางบัญชีนี้ บริษัทฯ จะมีกำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือน ปี 2561 เป็นจำนวน 3,311.68 เพิ่มขึ้น 13.34%
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit