นายเภรี อิชยพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) เปิดเผยว่า กองทรัสต์ HREIT เตรียมจัดประชุมผู้ถือหน่วยในวันที่ 18 ธันวาคมนี้ เพื่อขออนุมัติการลงทุนเพิ่มครั้งที่ 2 เพื่อลงทุนในสิทธิการเช่าโรงงานสำเร็จรูปของกลุ่ม WHA GROUP จำนวนไม่เกิน 477 ล้านบาท ระยะเวลา 30 ปี และต่ออายุการเช่าได้อีก 30 ปี รวมทั้งสิ้น 60 ปี ซึ่งประกอบด้วยอาคารและสิ่งปลูกสร้างโรงงานสำเร็จรูป ของบริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในธุรกิจของกลุ่ม WHA GROUP ซึ่งมีพื้นที่ในจังหวะสระบุรี จำนวน 9 ยูนิต คิดเป็นพื้นที่รวม 15,916 ตารางเมตร ปัจจุบันทรัพย์สินดังกล่าวมีผู้เช่าเต็ม 100% ซึ่งหากได้รับการอนุมัติแล้ว คาดว่ากองทรัสต์จะสามารถเข้าลงทุนในทรัพย์สินได้ทันทีภายในปีนี้
สำหรับการลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วย ได้รับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอและต่อเนื่องในระยะยาว ซึ่งการลงทุนเพิ่มของกองทรัสต์ "HREIT" ได้เตรียมใช้เงินทุนจากการกู้ยืมจำนวนไม่เกิน 420 ล้านบาท และเงินสดภายในของกองทรัสต์อีกไม่เกิน 80 ล้านบาท รวมเป็นเงินลงทุนทั้งสิ้นไม่เกิน 500 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการเข้าซื้อทรัพย์ จะทำให้กองทรัสต์ "HREIT" ขนาดเพิ่มขึ้น เป็นประมาณ9,700 ล้านบาท และมีพื้นที่ให้เช่ารวมทั้งสิ้น 332,505 ตารางเมตร
อีกทั้งผู้ถือหน่วยได้รับผลตอบแทนต่อหน่วยสูงขึ้นอย่างแน่นอน เพราะเงินลงทุนทั้ง 500 ล้านบาท เป็นเงินกู้ยืมและเงินสดภายใน ไม่ได้ระดมทุนเพิ่มจากผู้ถือหน่วย ประกอบกับอัตราการเช่าพื้นที่ของทรัพย์ใหม่ที่ปัจจุบันเต็ม 100% จะเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอในระยะยาว และจะทำให้อัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยของ กองทรัสต์ เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่ 77% อีกด้วย
กรรมการผู้จัดการกองทรัสต์ HREIT กล่าวเพิ่มเติมถึงผลการดำเนินงาน สิ้นสุดไตรมาส 3/2561 ของกองทรัสต์ "HREIT" เติบโตดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมา โดยอัตราการเช่าพื้นที่ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 77% จากระดับ 69% ในช่วงไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลจากการที่กองทรัสต์ได้ผู้เช่ารายใหม่เข้ามาทดแทนผู้เช่ารายเดิม ที่ก่อนหน้านี้ได้เปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจจากการเช่าพื้นที่เป็นการซื้อเพื่อลงทุนระยะยาวแทน
โดยปัจจัยสนับสนุนหลักที่ทำให้อัตราการเช่าพื้นที่ของกองทรัสต์เพิ่มขึ้น เกิดจากความต้องการใช้โรงงานสำเร็จรูปในภาคอุตสาหกรรมสูงขึ้น ตามนโยบายส่งเสริมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยทางอ้อมจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ส่งผลทำให้กลุ่มทุนที่เคยลงทุนอยู่ในประเทศจีน ย้ายฐานการผลิตมาสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น และประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมาย ด้วยศักยภาพการเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค ที่จะมีส่วนช่วยสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ได้
อีกทั้งแนวโน้มอัตราการเช่าพื้นที่ของกองทรัสต์ที่เพิ่มขึ้น บวกกับนโยบายชดเชยรายได้ส่วนต่างจากอัตราค่าเช่ารับประกันเป็นระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่วันที่กองเข้าลงทุนของเจ้าของทรัพย์สิน จึงทำให้กองทรัสต์ "HREIT" ยังคงสามารถจ่ายประโยชน์ตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยได้ ในอัตรา 0.1910 บาทต่อหน่วย ใกล้เคียงกับประโยชน์ตอบแทนที่จ่ายคืนผู้ถือหน่วยไปในไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ที่ผ่านมา โดยผู้จัดการกองทรัสต์เชื่อว่า ด้วยผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัวดีต่อเนื่อง จะทำให้ทั้งปีนี้ กองทรัสต์ "HREIT" จะสามารถจ่ายประโยชน์ตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยได้ ในอัตรา 0.76 บาทต่อหน่วย หากเทียบกับราคาในกระดานปัจจุบันที่ 6.80 บาท คิดเป็นผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยจะได้รับสูงถึง 11% นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมที่เกิดจาการประเมินมูลค่าได้ ทำให้กองทรัสต์ "HREIT" สามารถจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหน่วยได้ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit