นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัทไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 - 30 กันยายน 2561 ในอัตราหุ้นละ 0.07 บาทต่อหุ้น จำนวนหุ้น 5,113,305,700 หุ้น รวมเป็นเงินจำนวน 357,931,399 บาท และเงินปันผลดังกล่าวจะจ่ายจากกำไรสุทธิและกำไรสะสมของบริษัท
ทั้งนี้ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 (Record Date) และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 7 ธันวาคม 2561
สำหรับภาพรวมผลประกอบการในงวดไตรมาส 3/61 มี กำไรสุทธิอยู่ที่ 525.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 136% จากงวดไตรมาส2/61 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 222 ล้านบาท เนื่องจาก การที่บริษัทฯได้ปรับพอร์ตการขายไก่เข้าสู่ตลาดส่งออกมากขึ้น ขณะเดียวกันราคาเฉลี่ยสุกรที่สูงขึ้น รวมทั้งบริษัทได้ขยายการขายอาหารสัตว์ มากขึ้นด้วย
ขณะที่ในไตรมาส 3/61 มีรายได้รวมอยู่ที่ 7,542.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.78% เมื่อเทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นมาจากรายได้ของธุรกิจสุกรและธุรกิจอาหารสัตว์ ซึ่งรายได้จากธุรกิจไก่ในไตรมาส 3/61 อยู่ที่ 4,716.4 ล้านบาท โดยราคาไก่เฉลี่ยในไตรมาส 3 ของปี 2561 เท่ากับ 40.5 บาทต่อกิโลกรัม ลดลงเล็กน้อย จากในไตรมาส 3 ปี 2560 ที่ 41.7 บาทต่อกิโลกรัม และปริมาณขายผลิตภัณฑ์ไก่ในไตรมาส 3 ปี 2561 มีจำนวน 98,967 ตัน
สำหรับรายได้จากธุรกิจสุกรในไตรมาส 3 ของปี 2561 มีจำนวน 1,713.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.8%จาก 1,252.4 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งราคาสุกรในไตรมาส 3 ของปี 2561 เท่ากับ 63.8 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 13.5% จากไตรมาส 3 ของปี 2560 ที่เท่ากับ 56.2 บาทต่อกิโลกรัม และปริมาณการขายสุกรในไตรมาส 3 ของปี 2561 มีจำนวน 22,981 ตัน เพิ่มขึ้น 19.1% จากในไตรมาส 3 ของปี 2560 ที่มีจำนวน 19,294 ตัน
ส่วนตลาดสุกรในเวียดนาม ราคาปรับตัวสูงขึ้นสูงกว่าในประเทศไทย ราคาตลาดปัจจุบัน อยู่ที่ ประมาณ 70 บาทต่อกิโลกรัม โดยบริษัทฯ ส่งสุกรเข้าตลาดเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 7,000 ตัวต่อเดือน เป็นเดือนละ 8,000 ตัว ในครึ่งปีหลัง
ด้านรายได้จากธุรกิจอาหารสัตว์ขายภายนอก และอื่นๆ ในไตรมาส 3 ปี 2561 มีจำนวน 968.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.8 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 682.6 ล้านบาท และปริมาณการขายนอกในไตรมาส 3 ปี 2561 อยู่ที่ 74,480.2 ตัน เพิ่มขึ้น 46.29% จาก งวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 50,914.3 ตัน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีความมั่นใจว่า ภายในปีนี้ ธุรกิจ ทั้ง 3 กลุ่มข้างต้น ยังมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่องในระยะยาว และ สร้างรายได้รวมและกำไรเพิ่มให้เติบโตต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังต้องบริหารความเสี่ยงทางการเงิน ราคาตลาดของไก่และสุกร ต้นทุนวัตถุดิบนำเข้าและในประเทศ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์ รวมถึงป้องกันโรคระบาดของไก่และสุกร อย่างระมัดระวังขั้นสูงสุด
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit