ซึ่งตอนนี้เรื่องของไขมันทรานส์นั้นทำเอาหลายๆ ประเทศตื่นตัวกันมากขึ้น เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายและใบหน้าดูอ้วนขึ้น เพราะมีไขมันเลวไปสะสมแล้วนั้น ยังเป็นบ่อเกิดของโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน ไขมันอุดตัน โรคหัวใจ และยังไปลดไขมันดีในร่างกายลงอีกด้วย
ซึ่งผู้ที่ชอบรับประทานเบเกอรี่ หรือฟาสต์ฟู้ดนั้น อาจจะมีไขมันเลว แปรเปลี่ยนเป็นไขมันส่วนเกินสะสมทั้งในร่างกาย และใบหน้า โดยร่างกายนั้นมีวิธีทางที่จะลดไขมันเลวออกจากร่างกายได้ก็คือการออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก ส่วนไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่บนใบหน้านั้นคงจะทำให้หลายๆ คนกังวลใจ และขาดความมั่นใจ เพราะทำให้ใบหน้าใหญ่ มีเหนียง แก้มห้อย ใบหน้าไม่ได้รูปกันเลยก็ได้
ซึ่งหมอเกรซ พญ. เสาวภาคย์ พงศ์ศศิธร มีเคล็ดลับมาแนะนำหลายๆ คนที่ประสบปัญหา ไขมันส่วนเกินสะสมบนใบหน้ามากเกินไป อยากจะมีหน้าเรียวเล็กได้รูปแบบวีเชฟ นวัตกรรมการ "ฉีดไหมไลโป" สามารถช่วยคุณได้ ซึ่งการฉีดไหมไลโปนั้นเป็นเทคนิคศาสตร์แบบ Homeopathic" หรือการรักษาตามแนวธรรมชาติบำบัด ผลิตด้วยสารสดจากธรรมชาติ ไม่มีส่วนผสมของสิ่งแปลกปลอมที่จะก่อให้เกิดการตกค้างภายในร่างกายเลย เรียกได้ว่าเป็นเทคนิคใหม่ที่ทั้งดีและมีประโยชน์ต่อสาวๆ
โดยผลลัพธ์นั้นจะช่วยให้ใบหน้าของคุณยกกระชับ เต่งตึง ได้รูป และช่วยสลายไขมันส่วนเกินบนใบหน้าโดยวิธีตามธรรมชาติ ร่างกายจะค่อยๆ สลายไขมันส่วนเกินออกโดยที่คุณจะไม่มีผลข้างเคียง อีกทั้งยังไม่ทิ้งสิ่งแปลกปลอมไว้ในร่างกายอีกด้วย
โดยหมอเกรซได้เผยว่า "การฉีดไหม ไม่ใช่การร้อยไหม เพราะไม่ต้องฉีดยาชา ไม่ต้องพักฟื้น และตัวเข็มก็เป็นเข็มชนิดหัวเล็กๆ จิ้มลงไปบริเวณผิวหน้าด้านบนแบบไม่ลึกมาก และก็สามารถฉีดไหมเข้าไปสลายไขมันพร้อมยกกระชับหน้าได้แบบรวดเร็วทันใจจริงๆ"
ไหมไลโปนี้ ผลิตโดยสารสกัดจากธรรมชาติทั้งหมด ไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือผลข้างเคียงใด ๆ อย่างแน่นอน โดยจะมีทั้งสารสกัดจากรากไม้สมุนไพรดอกโคนสีม่วง ที่ช่วยต้านไวรัสแบคทีเรีย และเชื้อราได้ รวมถึงสารสกัดจากสมุนไพรนานาชนิดที่ช่วยกกำจัดพิษหรือของเสียให้ออกจากร่างกาย รวมถึงสารสกัดจากพืชและสมุนไพรอีกมากมายที่จะมาเพิ่มการสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟู ซ่อมแซมและคืนความอ่อนวัยให้แก่ผิวของเราอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นการกำจัดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายแล้ว ยังช่วยฟื้นฟู ทำให้ใบหน้าของเราดูสวยกระชับได้รูป และตอนนี้การฉีดไหมไลโปนั้นเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ มากเลยล่ะค่ะ
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit