"วันศุกร์ (สุข) แห่งชาติ" ไม่จำเป็นต้องมีเหล้า แนะเทคนิคเลิกเหล้า ให้ได้ผล

09 Nov 2018
"วันศุกร์ (สุข) แห่งชาติ" เริ่มเข้ามาบทบาทในเมืองไทยเมื่อประมาณ 4 ปีที่ผ่านมา โดยจะมีปาร์ตี้สุดสัปดาห์ ซึ่งมักจะเลี้ยง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในงานเสมอ โดย ล่าสุด medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยว วาไรตี้ และ เพจ sasook รายงานว่า
"วันศุกร์ (สุข) แห่งชาติ" ไม่จำเป็นต้องมีเหล้า แนะเทคนิคเลิกเหล้า ให้ได้ผล

นายแพทย์ภาสกร ชัยวานิชศิริ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึง สุรา คือ เครื่องดื่มที่มีเอทิลแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ มีฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง เมื่อสุราเข้าสู่ร่างกายจะทำให้เกิดพิษต่อสมองและอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย

เช่น ผลต่อสมอง ทำให้สมองเสื่อม ความคิดความจำบกพร่อง ผลต่อตับ ในระยะแรกจะเกิดไขมันสะสมในตับ ต่อมาจะเกิดภาวะตับอักเสบ และภาวะตับแข็งตามมา ผลต่อระบบทางเดินอาหาร เกิดแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ ผลต่อระบบสืบพันธุ์ ทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศโดยพิษแบบเฉียบพลัน ทำให้ขาดสติ ควบคุมตัวเองไม่ได้

อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือทะเลาะวิวาทได้ง่าย หลังการดื่มอย่างหนักเช้าตื่นมาจะเมาค้าง ทำให้อ่อนเพลีย คลื่นไส้ปวดศีรษะ หัวใจเต้นเร็ว และพิษแบบเรื้อรัง จะหมกมุ่นกับการหาสุราดื่มตลอดเวลา ทำให้สุขภาพร่างกายทรุดโทรม ขาดความรับผิดชอบ การทำหน้าที่ในชีวิตบกพร่อง การดื่มสุราเป็นระยะเวลานานส่งผลกระทบต่อผู้ติดสุราทำให้เสียสุขภาพ

เสียสัมพันธภาพกับคนในครอบครัวและเสียการงานซึ่งการสูญเสียเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของผู้ติดสุราจึงควรได้รับการบำบัดรักษาควบคู่กับการปรับเปลี่ยนกระบวนการคิด เพื่อเลิกสุราอย่างได้ผล

นายแพทย์สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติฯ ระบุว่า การบำบัดรักษาสุรามี 2 รูปแบบ คือการบำบัดรักษาแบบผู้ป่วยนอก เหมาะสำหรับผู้ติด แบบไม่รุนแรงมาก สามารถดูแลการรับประทานยาและควบคุมการหยุดดื่มได้ ไม่มีภาวะแทรกซ้อนทางกายที่รุนแรง

และการบำบัดแบบผู้ป่วยใน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถควบคุมการดื่มได้ โดยแพทย์จะบำบัดรักษาอาการถอนพิษสุราและภาวะแทรกซ้อนจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูสมรรถภาพ และฟื้นฟูกระบวนการคิดควบคู่กันไปหลังการบำบัดรักษาแล้ว ผู้ป่วยอาจมีปัจจัยมากระตุ้นให้นำไปสู่การดื่มสุราซ้ำอีก จึงควรปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตและวิธีคิดเพื่อการเลิกสุราอย่างได้ผลโดยหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นจากภายนอก เช่น ร้านค้าที่จำหน่ายสุรา เบียร์ งานเลี้ยงต่างๆ เพื่อนๆที่เคยดื่ม ฯลฯ

สิ่งกระตุ้นจากภายใน เช่น อารมณ์โกรธ หงุดหงิด เบื่อหน่าย ความอยากดื่มสามารถป้องกันและลดความอยากด้วยการรับประทานอาหารให้อิ่มก่อนการดื่มจะช่วยได้มาก และควรปรับเปลี่ยนความคิดที่นำไปสู่การดื่มสุรา

เช่น ขอดื่มครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย แต่ในความจริงแล้วครั้งสุดท้ายได้ผ่านไปแล้วถ้าไม่ดื่มอีกและอย่าดื่มแก้วแรกเพราะมีโอกาสเสี่ยงที่ทำให้ดื่มแบบติดลมอาจทำให้กลับมาติดซ้ำอีกได้ ทั้งนี้ครอบครัวควรช่วยดูแลและให้กำลังใจผู้ป่วยให้หยุดดื่มได้อย่างต่อเนื่อง

เมื่อผู้ป่วยหยุดดื่มได้ควรแสดงความชื่นชมเพื่อให้ผู้ป่วยเห็นว่าเป็นสิ่งที่เขาสามารถปฏิบัติได้ และเกิดกำลังใจในการเลิกดื่ม หากประสบปัญหาเกี่ยวกับสุรา หรือยาเสพติดสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่ สายด่วนยาเสพติด 1165 หรือที่สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กรมการแพทย์ จังหวัดปทุมธานีและโรงพยาบาลธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ขอนแก่น อุดรธานี สงขลาและปัตตานี

HTML::image(