การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย 4 ปี ก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด สิ่งสำคัญสำหรับผมกับการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย คือ การปรับตัวครับ ไม่ว่าจะเป็นทั้งในด้านการใช้ชีวิต ด้านการเรียน เช่น ด้านการเรียน การสอบวัดผลมันใช้วิธีต่างกันกับมัธยม มันทำให้เราต้องใช้ความพยายามที่มากขึ้น และสุดท้ายถ้าเราทำได้ ผลลัพธ์ออกมาดี เราก็เรียนได้อย่างมีความสุขครับ และก็อีกอย่างครับ ที่บางคนบ่นๆกันว่า อยู่มหาวิทยาลัยแล้ว เพื่อนดีๆ น้อยลง อันนี้จากประสบการณ์ของผม ผมว่ามันอยู่ที่เราจะคบเพื่อนแบบไหน และจะพากันไปในทิศทางไหนมากกว่าครับ
วิธีที่จะช่วยทำให้เราเรียนได้อย่างมีความสุข /ได้เรียนรู้ประสบการณ์ต่างๆ ในรั้วมหาวิทยาลัยให้อยู่รอดครบ 4 ปี ? สำหรับแต่ละคนก็คงใช้วิธีไม่เหมือนกัน และก็อาจจะสำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง ตัวผมเองใช้วินัยกับความพยายามครับ การมีวินัยในตนเอง เข้าเรียนเมื่อต้องเข้าเรียน อาจจะมีขาดบ้างแต่ก็ต้องติดตามและคอยสอบ ถามเพื่อนว่าเรียนอะไร เนื้อหาเป็นอย่างไร ผมอาจจะต้องใช้ความพยายามมากกว่าคนอื่นๆ และต้องมีสติ ยึดมั่น เรียนรู้ไปกับมัน พร้อมๆ กับการให้กำลังใจตนเองว่าเราต้องทำได้ และนี่คือบททดสอบที่สอนให้เรามีกำลังกาย-ใจ ต้องก้าวผ่านไป แม้แต่บางครั้งก็พยายามให้มันสุดๆ ถึงแม้จะไม่รู้เลยว่าเราจะสามารถผ่านไปได้หรือไม่ก็ตาม
สำหรับสังคมในรั้วมหาวิทยาลัย ก็ค่อยข้างมีอิสระในหลายๆ ด้าน องค์ประกอบที่สำคัญอีกส่วนหนึ่ง คือความกระตือรือร้นต้องมากเช่นกันเป็นสิ่งสำคัญในการปรับตัวและสังคมของรั้วมหาวิทยาลัยมันก็เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ ส่วนกิจกรรมของผมจะใช้เวลาไปกับการศึกษาค้นคว้าตำรา และการติวหนังสือกับเพื่อนมาก แค่นี้ก็ใช้ใช้ชีวิตมหาวิทยาลัยได้มีความสุขครับ
ตลอดเวลาที่ศึกษาในรั้ว มจพ. ได้รับความเมตตาจากอาจารย์หลายๆ ท่าน อาทิ รศ.ดร.วรา วราวิทย์ อาจารย์โสภณ อภิรมย์วรการ จะสอบถามเรื่องการเรียน การใช้ชีวิตประจำวัน ตลอดเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ต้องขอขอบพระคุณคณาจารย์ที่คณะ พี่ๆ เพื่อนๆ ทุกคน และที่ความประทับใจสุดๆ ก็คงเป็นพื่อนที่ต้องยกรถวีลแชร์ตลอดเวลา 4 ปี ในช่วงเทศกาลติวก่อนสอบ เพราะกันไปติวภายนอก มจพ. เกรงใจเพื่อนมากและต้องขอบคุณที่เขาไม่ทิ้งเรา เพราะเพื่อนคือคนที่เราไว้ใจมากที่สุด
"แชมป์" บัณฑิตป้ายแดง เสริมว่าการใช้ชีวิตในรั้ว มหาวิทยาลัยมันสอนเรารู้จักคน สังคม และชีวิตโลกใบนี้ว่ามีอะไรดีๆ ที่เราสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้มากทีเดียว และที่สำคัญหากเข้าสังคมและที่ยอมรับในตัวตนของเราได้เราก็จะสามารถรับรู้และสัมผัสได้ว่า "ผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว" พี่ขวัญเองในฐานะคนที่สัมภาษณ์รู้สึกดีใจและเป็นปลื้มกับความสำเร็จในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน มจพ. ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตป้ายแดงด้วยนะคะ
HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit