โคนิก้า มินอลต้า เปิดตัวเทคโนโลยี Gas Monitoring System รุกตลาดอุตสาหกรรมโรงกลั่นและปิโตรเคมี พร้อมยกระดับความปลอดภัยขั้นสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีระดับโลก

ไบเทค โดยมีผู้ประกอบการจากหลากหลายอุตสาหกรรมเข้าเยี่ยมชมและให้ความสนใจเป็นอย่างมากทีมวิจัยของ โคนิก้า มินอลต้า ประเทศญี่ปุ่น ได้พัฒนา Gas Monitoring System ระบบตรวจจับการรั่วไหลของก๊าซขึ้น เนื่องจากตระหนักถึงความสำคัญด้านความปลอดภัยของอุตสาหกรรมโรงกลั่นและปิโตรเคมี อุบัติเหตุในแต่ละครั้งหมายถึงโศกนาฏกรรมและความสูญเสียทั้งทางด้านธุรกิจและสิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาล Gas Monitoring System จะช่วยตรวจตราและเตือนภัยเมื่อเกิดการรั่วไหลของก๊าซ โดยจะทำการส่งภาพและข้อมูลของจุดเกิดเหตุ อุณหภูมิ และความหนาแน่นของก๊าซไปยังศูนย์กลางการควบคุม ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที เป็นเทคโนโลยีที่ลดการพึ่งพามนุษย์ ที่ปัจจุบันต้องใช้ทักษะเฉพาะตัวสูง และเสี่ยงต่อความประมาทเลินเล่อ

ในประเทศไทยปัจจุบันมีโรงกลั่นน้ำมันทั้งหมด 7 แห่ง ซึ่งมีกำลังการผลิตราว 1.235 ล้านบาร์เรลต่อวัน นับเป็นอันดับสองของอาเซียนรองจากสิงคโปร์ ส่งผลให้เกิดอัตราขยายตัวของโรงงานอุตสาหกรรมปิโตรเคมีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโคนิก้า มินอลต้า ได้เล็งเห็นศักยภาพและความเป็นไปได้ของการเจาะตลาดในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ Gas Monitoring System ของโคนิก้า มินอลต้า ประกอบไปด้วยเซ็นเซอร์แบบ FIR (Far Infrared) ที่สามารถตรวจจับและส่งข้อมูลเพื่อแสดงผลบนจอมอนิเตอร์แบบ Real time แบ่งออกเป็น 2 ประเภท

Fixed Typed Gas Monitoring มีส่วนประกอบสำคัญคือ ตัวกล้อง และกล่องควบคุมกล้อง ติดตั้งอย่างถาวรบนผนังกำแพง หรือสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ มีใบรับรองทนต่อแรงรระเบิด สามารถตรวจจับการรั่วไหลได้ตลอด 24 ชั่วโมงแบบอัตโนมัติ เพื่อเฝ้าระวังพื้นที่หรือบริเวณที่สำคัญ โดยแจ้งเตือนก่อนเกิดเหตุหรือเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน ช่วยทำการวิเคราะห์ข้อมูลแบบระยะยาว และปรับปรุงกระบวนการบำรุงรักษาอุปกรณ์ นอกจากนี้ยังสามารถทำงานร่วมกับโปรแกรมด้านความปลอดภัยอื่น ๆ ได้ กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คือ โรงกลั่นน้ำมัน โรงแยกก๊าซ โรงงานที่มีสารเคมีที่ก่อให้เกิดก๊าซในกระบวนการผลิต เป็นต้น

Portable Type Gas Monitoring ประกอบด้วย ตัวกล้อง ขาตั้งกล้อง และ Industrial tablet ใช้เพื่อตรวจสอบการรั่วไหลในพื้นที่จริงแบบอัตโนมัติและแสดงรายงานการซ่อมแซม สามารถทำการบันทึกข้อมูลลงบน SD Card ซึ่งลูกค้าเป้าหมาย คือ กลุ่มผู้ให้บริการตรวจสอบมาตรฐานในโรงงาน และความปลอดภัยทางด้านสิ่งแวดล้อม ผู้ให้บริการตรวจสอบและซ่อมบำรุงต่าง ๆ

นอกจากนี้ในงาน Secutech Thailand 2018 ทาง โคนิก้า มินอลต้า ยังได้นำผลิตภัณฑ์ MOBOTIX กล้องวงจรปิดอัจฉริยะแบบ IP ระดับไฮเอนด์หลากหลายรุ่นไปจัดแสดงอีกด้วย เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมได้ทดลองและสัมผัสประสบการณ์จริงแบบ Real Time Real Experience โดยได้รวมเอาคุณสมบัติที่หลากหลายเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อ ตอบสนองความต้องการทุกธุรกิจ โดยไม่เพียงแค่เฝ้าระวังและรักษาความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับกระบวนการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพของทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด อีกทั้งช่วยป้องกันความผิดพลาด ทำให้สามารถจัดการธุรกิจได้อย่างชาญฉลาด โดยสรุปเป็น 3 เหตุผลหลัก คือ

ข้อแรก MOBOTIX เป็น IP camera ที่มีระบบจัดการและหน่วยประมวลผลภายในตัวกล้อง และจัดเก็บข้อมูลลงใน SD card จึงทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายเนื่องจากไม่ต้องลงทุนกับเซิร์ฟเวอร์ที่มีสเปคสูงและราคาแพง

ข้อสอง นอกจากนี้ MOBOTIX ยังมาพร้อมกับระบบการจัดการวิดีโอ MX Manager ที่สามารถมอนิเตอร์ภาพได้โดยไม่จำกัดจำนวนกล้อง และยังใช้ในการวิเคราะห์ทิศทางหรือการเคลื่อนไหวของบุคคลหรือวัตถุต้องสงสัยได้โดยไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์และไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกด้วย

ข้อสาม MOBOTIX ผลิตในประเทศเยอรมนี จึงสามารถวางใจได้เรื่องความแข็งแรงทนทาน ทนต่อสภาวะอากาศตามมาตรฐาน IP66 และ IP65 ทั้ง ฝุ่น ร้อน หนาว แรงกระแทก หรือในบางรุ่นยังสามารถกันกระสุนได้อีกด้วย และที่สำคัญมีอัตราการเสียที่ต่ำมากในระยะเวลาการใช้งาน 5 – 7 ปี

โคนิก้า มินอลต้า จะยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องและคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่ทุกคน

• ข่าวนิทรรศการ
• ข่าวไบเทค
• ข่าวศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค
• ข่าวโคนิก้า
• ข่าวปิโตรเคมี
• ข่าวมินอลต้า