นายสกล ชีวะโกเศรษฐ รองประธานกรรมการ กลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมสัตว์บก ซีพีเอฟ ฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวเป็นความมุ่งมั่นของบริษัทที่จะขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือด้านการผลิต และการเป็นตลาดรองรับผลผลิตข้าวฟ่างของพี่น้องเกษตรกรชาวฟิลิปปินส์ สำหรับนำไปผลิตเป็นอาหารสัตว์ ทดแทนการนำเข้าข้าวโพดและข้าวสาลีจากต่างประเทศ เพื่อรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมปศุสัตว์และสัตว์ปีกของฟิลิปปินส์ ขณะเดียวกันยังเป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับภาคการเกษตร และช่วยลดต้นทุนการผลิตสัตว์จากราคาวัตถุดิบที่ถูกลงเนื่องจากสามารถผลิตได้เองภายในประเทศ สุดท้ายย่อมเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนชาวฟิลิปปินส์ที่จะได้บริโภคเนื้อสัตว์ในราคาที่สมเหตุสมผล
"ความต้องการวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปริมาณวัตถุดิบไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ไม่พอสำหรับการผลิตอาหารสัตว์ โรงงานอาหารสัตว์จึงต้องพึ่งพาการนำเข้าข้าวโพดและข้าวสาลีมาทดแทน ส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์สูงขึ้นตามไปด้วย โครงการนี้จะช่วยลดปัญหาดังกล่าว โดยมีเป้าหมายในการผลิตข้าวฟ่างมาใช้แทนวัตถุดิบโปรตีนทั้งสองชนิด ตั้งเป้าผลิตในพื้นที่ 1 ล้านเฮกตาร์ ในระยะ 3 ปีข้างหน้า มุ่งเน้นส่งเสริมการผลิตแก่เกษตรกรที่เป็นชนชาวพื้นเมือง" นายสกล กล่าว
นอกจากนี้ โครงการยังสนับสนุนการสร้างต้นแบบการเพาะปลูกข้าวฟ่างในภูมิภาคต่างๆ โดยกรมวิชาการเกษตรจะทำหน้าที่ถ่ายทอดเทคนิควิธีการเพาะปลูกตามหลักวิชาการ เพื่อให้เกษตรกรมีประสิทธิภาพการผลิตที่ดี ได้ผลผลิตคุณภาพสูง โดยใช้ต้นทุนต่ำ สำหรับเป็นแหล่งเรียนรู้และศึกษาดูงานแก่เกษตรกรรายอื่นๆที่ต้องการเข้าร่วมโครงการฯ โครงการนี้ไม่เพียงได้ผลผลิตข้าวฟ่างเพื่อป้อนให้กับโรงงานผลิตอาหารสัตว์เท่านั้น ทั้งนี้เกษตรกรแต่ละรายยังสามารถสร้างรายได้จากการทำข้าวฟ่างหมักเพื่อเลี้ยงวัวอีกประมาณ 120,000เปโซ และสามารถนำไปเพาะเห็ดได้อีกทางหนึ่ง
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit