ภายในงาน คุณวาสนา รุ่งแสนทอง ลาทูรัส เปิดเผยว่า "หลังจากที่บริษัททำตลาดผลิตภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ "นารายา" และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะถูกจัดให้เป็นสินค้าแบรนด์อันดับต้นๆ ที่ผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมักจะนึกถึง หากนึกถึงสินค้าไทยที่เป็นที่รู้จัก แต่ทั้งนี้บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ และพัฒนาสินค้างานฝีมือที่ทำจากฝีมือของคนไทย ให้ไปอวดโฉมสู่สายตาผู้บริโภค ในปีนี้นารายาได้เปิดแฟลกชิพสโตร์ที่ใหญ่ที่สุดด้วยพื้นที่กว่า 1,350 ตร.ม. ที่เราเชื่อในศักยภาพและทำเลของไอคอนสยามที่จะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก ประกอบกับภายในร้านจะเต็มไปด้วยสินค้านานาชนิด อาทิ NaRaYa (นารายา), Nara by NaRaYa (นารา บาย นารายา), LaLaMa By NaRaYa (ลา ลา มะ บาย นารายา), Aphrodite by NaRaYa (อะโฟรดิเต้ บาย นารายา) และEvangelisa NaRaYa Silk (เอแวนเจลิซ่า นารายา ซิลค์) เป็นต้น เพื่อรองรับทั้งลูกค้าชาวไทยและลูกค้าชาวต่างชาติ"
นอกจากนี้ คุณพศิน ลาทูรัส ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด กล่าวว่า "ตลอดระยะเวลา 28 ปีที่ผ่านมา นารายาไม่เคยทำการตลาดเลย แต่ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปพร้อมกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เราต้องปรับตัวและหันมาวางแผนการตลาดเพื่อพัฒนาแบรนด์ ซึ่งในปีนี้มุ่งหวังให้นารายาเป็นมากกว่าแค่แบรนด์กระเป๋าสัญชาติไทยที่ผลิตโดยคนไทย แต่เป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ เพื่อขยายฐานผู้บริโภคและตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคนี้ โดยเราได้เปิดตัวอีก 4 แบรนด์ ภายใต้แบรนด์นารายา ได้แก่ Aphrodite by NaRaYa (อะโฟรดิเต้ บาย นารายา) แบรนด์กระเป๋าที่เราตั้งใจให้เป็นรุ่นพิเศษสำหรับผู้หญิง
และยกระดับให้มีความพรีเมี่ยมมากขึ้นด้วยการใช้ material ใหม่ ที่ up scale ขึ้น และ Evangelisa NaRaYa Silk (เอแวนเจลิซ่า นารายา ซิลค์) แบรนด์เสื้อผ้าที่มีความพิเศษด้วยเสน่ห์ความงามของผ้าไหมไทยด้วยความตั้งใจของเราที่อยากให้ผ้าไหมสามารถจับต้องได้ ทั้งรูปแบบการดีไซน์รวมถึงสีและลวดลายต่างๆ ของผ้าไหมก็ได้ถูกคัดสรรอย่างประณีต ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ของนารายา "Bring a piece of Thailand" โดยคอลเลกชั่นนี้ประกอบไปด้วย เสื้อผ้า, กระเป๋า และ เครื่องประดับ ในราคาที่จับต้องได้ นอกจากนี้เราได้เปิด NaRaYa Tea Room (นารายา ที รูม) หรือ ร้านชาในสไตล์นารายาแห่งแรกในประเทศ ที่รังสรรค์ขึ้นมาเพื่อลูกค้าคนพิเศษโดยเฉพาะ รองรับผู้ที่มาช้อปปิ้งภายในร้านนารายาให้ได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้น และในต้นปีหน้า นารายาเตรียมเปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว มีทั้งหมด 4 กลิ่น และตั้งใจจะจำหน่ายคู่กับสินค้าของนารายา โดยจะทำเป็น Travelling kit เน้นกลุ่มลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว"
คุณพศิน กล่าวเสริมอีกว่า "ปัจจุบันเราพยายามสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ๆ ให้กับลูกค้า เพื่อตอบสนองเทรนด์การช้อปปิ้งที่เปลี่ยนไปในยุคดิจิทัลนี้ โดยในปีนี้เรามุ่งเน้นพัฒนาและทำการตลาดออนไลน์เป็นหลัก และกำลังอยู่ในช่วงขยายตลาดสู่เอเชีย อาทิ จีน มาเลเซีย เวียดนาม ฮ่องกง และไต้หวัน ซึ่งเราคาดหวังการเติบโตของผลประกอบการเพิ่มขึ้นที่ 5-10% ในตลาดไทย และ 20% ในตลาดต่างประเทศ โดยปีนี้เราทุ่มทุนไปกว่าพันล้านบาทเพื่อพัฒนาตลาดออนไลน์และขยายตลาดสู่เอเชีย"
ปิดท้ายด้วย Mr.George Hartel COO บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ได้กล่าวเสริมในด้านการพัฒนาทางการตลาดว่า "ปีนี้เรามุ่งเน้นทำการตลาดออนไลน์โดยเพิ่มประสบการณ์การช้อปปิ้งรูปแบบใหม่บนแพลตฟอร์มของอีคอมเมิร์ซ ซึ่งคาดว่า ภายในปีนี้ลูกค้าต่างชาติน่าจะสามารถช้อปปิ้งสินค้านารายาผ่านทางอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ในจีนได้ อาทิ Alibaba, VIP.com และ Yun G (ยุนจี) นอกจากนี้ยังมี KARA โซเชียลคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มน้องใหม่ที่กำลังมาแรงในโลกดิจิทัลอีกด้วย ซึ่งในขณะนี้ลูกค้าในไทยก็สามารถสั่งซื้อนารายาผ่านช่องทางออนไลน์ได้แล้วที่ Lazada และ JD Central และเมื่อแคมเปญ 11.11 ของลาซาด้า ที่ผ่านมา ยอดขายของนารายาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งนับเป็นความก้าวหน้าของแบรนด์ในตลาดออนไลน์ที่ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี"
สำหรับกิจกรรมทางการตลาด ทางแบรนด์ได้จัดงานเปิดตัวขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และเป็นครั้งแรกของแบรนด์ เพื่อสร้างการประชาสัมพันธ์รับรู้ในวงกว้าง โดยได้ดาราสาวคนสวยอย่าง แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ พาทุกท่านร่วมสัมผัสกับ NaRaYa Flagship Store and NaRaYa Tea Room แห่งแรกในเมืองไทย พร้อมชมแฟชั่นโชว์สุดพิเศษ จาก คอลเลกชั่นของ Evangelisa NaRaYa Silk (เอแวนเจลิซ่า นารายา ซิลค์) จากศิลปินดาราชื่อดัง อาทิ ออฟ-จุมพล อดุลกิตติพร, กัน-อรรถพันธ์ พูลสวัสดิ์, นักแสดงจากซีรีย์บังเอิญรัก และ สาวๆ จาก The Face Thailand ซึ่งถือเป็นตัวแทนของศิลปินที่มีที่มีคาแรกเตอร์โดดเด่น ทั้งความสดใส มีเสน่ห์ เป็นตัวแทนของเด็กรุ่นใหม่ ที่เป็นที่ชื่นชอบของวัยรุ่น ดังนั้นนั่นคือจุดแข็งสำคัญของทางในการขยายฐานไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ได้ตามเป้าหมายที่บริษัทต้องการ พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังจะเดินหน้าสร้างสรรค์กิจกรรมทางการตลาดแบบครบวงจร หรือกลยุทธ์ทางการตลาด 360 องศา ทั้งในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อสร้างแบรนด์ให้เติบโตและเป็นผู้นำในตลาดอย่างต่อเนื่อง
สัมผัสสุนทรียภาพสินค้าไทย ที่ NaRaYa Flagship Store (นารายา แฟลกชิพ สโตร์) และดื่มด่ำกับเมนูไทย คาวหวานและชาคุณภาพดี ณ NaRaYa Tea Room (นารายา ทีรูม) ที่คัดสรรขึ้นเพื่อลูกค้าคนพิเศษโดยเฉพาะ ตั้งแต่วันนี้ ณ ชั้น G โซน สุขสยาม ไอคอนสยาม
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit