“วิกโก้ มอร์เทนเซน” – “มาเฮอร์ชาลา อาลี” โชว์ฝีมือแสดงเต็งทุกสถาบันรางวัล “GREEN BOOK” ชาย 2 คน จากโลก 2 ใบ หนึ่งจุดหมายมิตรภาพ

07 Dec 2018
จากเค้าโครงเรื่องจริงสู่ภาพยนตร์ขวัญใจคอหนัง สำหรับภาพยนตร์เรื่อง "Green Book" จากผู้กำกับ "ปีเตอร์ ฟาร์เรลลี" ที่บอกเล่าเรื่องราวของสองคู่หูต่างขั้ว อย่าง วิกโก้ มอร์เทนเซน รับบทเป็น โทนี่ ลิป คนขับรถชาวอิตาเลียนอดีตขาใหญ่การ์ดเฝ้าผับ และ มาเฮอร์ชาลา อาลี รับบทเป็น "ดร. ดอน เชอร์ลีย์" ศิลปินนักเปียโนผิวสีระดับโลก ผู้มีความสุภาพ แต่งตัวดี การศึกษาสูง ที่จับผลัดจับผลูตระเวนเดินทางไปทั่วตอนใต้ของอเมริกาด้วยกัน แต่การเดินทางในยุค 60's ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเหยียดสีผิวอย่างรุนแรง และอาจมีอันตรายรออยู่ทุกเมื่อ โดย วิกโก้ ได้กล่าวถึงการรับบท โทนี่ ว่า
“วิกโก้ มอร์เทนเซน” – “มาเฮอร์ชาลา อาลี” โชว์ฝีมือแสดงเต็งทุกสถาบันรางวัล “GREEN BOOK” ชาย 2 คน จากโลก 2 ใบ หนึ่งจุดหมายมิตรภาพ

"คุณต้องมองตัวละครพวกนี้ว่าเป็นคนจริงๆผ่านเหตุการณ์จริง ทั้งช่วงเวลา รายละเอียด ปมดราม่าในเรื่อง ทุกอย่างเตรียมมาดีมาก มันมีอารมณ์ขันซึ่งมาจากสถานการณ์ และความต่างขั้วกันของตัวละคร มีความสมจริงที่จะทำให้คุณเชื่อสนิทใจเลยทีเดียว โทนี่อาจไม่ได้ฉลาดเท่าดร.เชอร์ลี แต่เขามีสัญชาตญาณเฉียบคม มีความเป็นนักเลง โทนี่จ้อไม่หยุดในรถ สูบบุหรี่ กินไม่หยุด ชอบถามเรื่องส่วนตัว ปกติคนขับรถของดร.เชอร์ลีมักจะสุภาพ พูดเมื่อถูกถามเท่านั้น คุณจะเห็นมุมมองของทั้งคู่ตั้งแต่เริ่มออกเดินทาง"

ด้านของ มาเฮอร์ชาลา ผู้รับบท ดร.ดอน ก็ชื่นชอบความท้าทายที่จะได้เล่นเป็นตัวละครที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครโดยเขาได้กล่าวว่า "สิ่งที่ทำให้ผมทึ่งในตัวดอนที่สุด คือความซับซ้อน เขาต้องรับมือกับปัญหาหลายเรื่องในขณะเดียวกันเขาซ่อนความสามารถอันสุดยอดอยู่ข้างใน บทนี้มีอะไรให้ผมได้ลองเล่นเยอะมากๆ. เขาเรียนมาสูง เขาใช้ชีวิตและฝึกเปียโนในรัสเซีย และลอนดอน แต่เพราะเขาเป็นแอฟริกันอเมริกัน เขาเลยดูไม่เหมือนคนที่จะได้รับการยอมรับในโลกนักดนตรีคลาสสิก แถมเขาไม่อยากเล่นเพลงตามกระแสที่ได้ชื่อว่าเป็น 'ดนตรีคนดำ' ในยุคนั้นอีกด้วย กับโทนี่พวกเขาเรียนรู้ที่ยอมรับในตัวกันและกัน พวกเขาตระหนักได้ว่ากำลังเดินทางไปด้วยกัน อาจจะเป็นในฐานะเพื่อน หรือเพื่อนร่วมงาน มิตรภาพของทั้งสองที่ก่อตัวขึ้นมันงดงาม"ความสมดุลระหว่างอารมณ์ขันและ ดราม่าบีบคั้นคือสิ่งที่ทำให้ Green Book โดดเด่นอย่างทรงพลัง ตลอดเส้นทางก่อให้เกิดมิตรภาพและเสียงหัวเราะท่ามกลางอุปสรรคระหว่างที่พวกเขาต้องข้ามผ่านพรมแดนแห่งสีผิว แฟนภาพยนตร์เมืองไทยเตรียมพิสูจน์ความยอดเยี่ยมที่กำลังดังไปทั่วโลกต้อนรับปีใหม่ เปิดรอบพิเศษ 27 ธันวาคมนี้ รอบ 2 ทุ่มเป็นต้นไป ฉายจริง 3 มกราคม 2019 ในโรงภาพยนตร์

HTML::image( HTML::image(