นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปี 2560 ประเทศไทยมีชาวต่างชาติยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศมากกว่า 8 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นการขอวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยวประมาณ 85% และประเทศที่มีการขอวีซ่ามากที่สุดคือประเทศจีน ดังนั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและเพิ่มความรวดเร็วในการยื่นขอรับวีซ่า กรมการกงสุลในฐานะผู้ทำหน้าที่ตรวจลงตราคนต่างด้าวที่ประสงค์จะเดินทางเข้าประเทศไทยหรือวีซ่า ได้พัฒนาระบบตรวจลงตราอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย หรือ Thai e-Visa ให้ชาวต่างชาติสามารถยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศไทยทุกประเภท ผ่านทางออนไลน์บนเว็บไซต์ www.thaievisa.go.th
บริการ Thai e-Visa นับเป็นมิติใหม่ของการยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศไทย จุดเด่นสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ 1. ความสะดวกรวดเร็ว นักท่องเที่ยวสามารถเริ่มต้นกระบวนการขอวีซ่าบนออนไลน์ด้วยตนเองตั้งแต่การกรอกแบบฟอร์ม ยื่นเอกสาร การชำระค่าธรรมเนียมแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบของธนาคารกสิกรไทย (E-Payment) และทำการนัดหมายวันเวลาที่สะดวกผ่านระบบเพื่อเดินทางไปยื่นหนังสือเดินทางที่สถานทูตหรือสถานกงสุล 2. สามารถใช้บริการได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วยระบบออนไลน์ผ่านอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ และ 3. ปลอดภัยสูงสุด ด้วยระบบการชำระเงินที่มีเทคโนโลยีความปลอดภัยมาตรฐานโลก
นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางมาเมืองไทยเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ แล้ว บริการ Thai e-Visa ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่กงสุลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ กรมการกงสุลจะเปิดให้บริการ Thai e-Visa ในต้นปี 2562 โดยจะให้บริการในกรุงปักกิ่ง เป็นที่แรก ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 ก่อนขยายไปสถานกงสุลใหญ่ในเมืองอื่น ๆ ในจีน ในวันที่ 1 มีนาคม 2562 ตามด้วยอังกฤษ และฝรั่งเศส ในวันที่ 1 เมษายน 2562 พร้อมตั้งเป้าหมายจะเปิดให้บริการในทุกประเทศที่มีสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยในต่างประเทศ ภายใน 3 ปี
นายชาตรีกล่าวเสริมว่า กรมการกงสุลมุ่งพัฒนาระบบตรวจลงตราอิเล็กทรอนิกส์ให้มีประสิทธิภาพเต็มรูปแบบ โดยในอนาคตการตรวจลงตราบางประเภทจะไม่จำเป็นต้องติดแผ่นปะลงในหนังสือเดินทาง แต่จะเป็นการแจ้งผลทางอีเมล์และส่งผลการตรวจลงตราไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองผ่านระบบเชื่อมโยงที่พัฒนาร่วมกัน พร้อมกับการนำระบบชีวมาตร หรือ biometric มาใช้ในการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล หรือการนำเทคโนโลยี Robotic Process Automation มาใช้ตรวจสอบข้อมูลของผู้ร้อง เป็นต้น
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า บริการ Thai e-Visa เป็นบริการระดับสากลที่อยู่บนระบบที่มีมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก ธนาคารกสิกรไทยได้เข้ามาสนับสนุนด้านระบบการชำระค่าธรรมเนียมอิเล็กทรอนิกส์ของบริการนี้ ทำให้สามารถรองรับธุรกรรมข้ามประเทศได้กว่า 126 สกุลเงินทั่วโลก ผ่านหลายช่องทาง ทั้งบัตรเครดิต QR Code และ Internet Banking โดยในส่วนของการชำระผ่าน QR Code นั้นจะเริ่มที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจะรองรับการชำระผ่านทั้ง WeChat Pay AliPay และ China Union Pay
ทั้งนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การดูแลระบบให้มีความเสถียรและปลอดภัยสูงสุด เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ขอวีซ่าและส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย นอกจากนี้ธนาคารฯ ยังจะร่วมสนับสนุนและพัฒนาโครงการนำเทคโนโลยี Robotic Process Automation มาใช้ตรวจสอบข้อมูลของผู้ขอวีซ่าของกรมการกงสุลในอนาคตด้วย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit