GUNKUL มหาเฮง แจกข่าวดีหนักมาก! กำไรปี61 ผงาดแตะ 1.17 พันลบ. บอร์ดใจสปอร์ต แจกหุ้นปันผลพร้อมเงินสดทันที ส่งสัญญาณปี 62 เครื่องฟิต ติดเทอร์โบ

21 Feb 2019
บมจ. กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) โชว์ผลงานงวดปี 61 สุดล้ำ! กำไรสุทธิพุ่งแตะ 1,178.41 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 660.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 518.02 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 78.44 ส่วนรายได้รวมไม่น้อยหน้าแตะ 6,460.89 ล้านบาท ด้านบอร์ดไม่รอช้า อนุมัติจ่ายหุ้นปันผลในอัตรา 5 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล คิดเป็นการจ่ายหุ้นปันผลในอัตรา 0.05 บาทต่อหุ้น และจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.01 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ "โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์" ส่งซิกปีนี้มีลุ้นโครงการใหม่ๆ เข้ามาทุกไตรมาส แถมรับรู้รายได้เต็มปีจากธุรกิจพลังงานทดแทน ขณะที่ธุรกิจเทรดดิ้ง-รับเหมา โตต่อเนื่อง ดันรายได้ทั้งปีทะลุ 7,500 ล้านบาท เติบโตประมาณ 20% ตามเป้า
GUNKUL มหาเฮง แจกข่าวดีหนักมาก! กำไรปี61 ผงาดแตะ 1.17 พันลบ. บอร์ดใจสปอร์ต แจกหุ้นปันผลพร้อมเงินสดทันที ส่งสัญญาณปี 62 เครื่องฟิต ติดเทอร์โบ

นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เปิดเผยถึงที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2562 มีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้นและเงินสด จากผลการดำเนินงานงวดปี 2561 ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ โดยจ่ายเป็นหุ้นปันผลในอัตรา 5 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล คิดเป็นการจ่ายหุ้นปันผลในอัตรา 0.05 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่าไม่เกิน 370,931,074.75 บาท และจ่ายเป็นเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.01 บาท รวมมูลค่าไม่เกิน 75,000,000 บาท และเมื่อรวมการจ่ายปันผลทั้งรูปเงินสดปันผลและหุ้นปันผล จะเท่ากับ 0.06 บาท ต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 445,931,074.75 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 95.74 ของงบการเงินเฉพาะกิจการ

จากการอนุมัติจ่ายปันผลข้างต้น จึงมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทเพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผลรวมจำนวน 1,483,724,299 หุ้น หรือ 370,931,074.75 บาท

โดยได้กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 26 เมษายน 2562 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) คือ วันที่ 25 เมษายน 2562 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 พฤษภาคม 2562

นอกจากนี้บริษัทและบริษัทย่อยยังได้แจ้งผลการดำเนินงานงวดปี 2561 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561) ของบริษัทและบริษัทย่อย พบว่ามีผลกำไรสุทธิ 1,178.41 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันกับปีก่อนมีกำไรสุทธิ 660.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 518.02 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 78.44 เนื่องจากกลุ่มบริษัท ฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 6,460.89 ล้านบาท เทียบจากงวดเดียวกันของปีก่อน 4,913.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,547.41 ล้านบาท หรือร้อยละ 31.49 โดยแบ่งเป็นรายได้จากการรับเหมาก่อสร้างจำนวน 2,028.24 ล้านบาท และรายได้จากการขายไฟฟ้าและส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าจำนวน 2,929.75 ล้านบาท

"บริษัทฯ มีความมั่นใจในศักยภาพของรายได้และกำไรสุทธิในปีนี้ว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่น โดยคาดว่ารายได้รวมจะแตะระดับ 7,500 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 20% เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม ทั้งในและต่างประเทศ ที่ดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เต็มปี และปีนี้คาดว่าจะจำหน่ายไฟฟ้า เพิ่มอีกกว่า 100 เมกะวัตต์ รวมถึงธุรกิจเทรดดิ้ง และธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ยังคงมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทยังมีงานประมูลรับเหมาและวางระบบทางด้านวิศวกรรม (EPC) อีกหลายโครงการที่จะเข้าร่วมประมูลทุกไตรมาส จากปัจจุบันบริษัทฯ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ในมือรวมทั้งสิ้นประมาณ 550 เมกะวัตต์ โดยยังคงเป้าหมายภายในปี 2564 จะมี PPA เพิ่มเป็น 1,000 เมกะวัตต์ "นางสาวโศภชากล่าว