สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จัดตั้งและใช้ระบบอาหารฮาลาลเป็นครั้งแรกของโลก
กรอบความตกลงยอมรับร่วมกันในกลุ่มประเทศอาหรับว่าด้วยมาตรฐานบริการและผลิตภัณฑ์ฮาลาล ได้รับการประกาศที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในวันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของอาหารฮาลาลในตลาดโลก
(รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/822982/Arab_Halal_Program.jpg )
กรอบความตกลงดังกล่าวได้รับการประกาศ ณ พาวิลเลียนขององค์กรการทำเหมืองและการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอาหรับ ในระหว่างการประชุมอุตสาหกรรมฮาลาลโลกครั้งที่ 4 ซึ่งจัดโดยสำนักงานมาตรฐานและชั่งตวงวัดแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ESMA)
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ตั้งเป้าว่าจะขยายอุตสาหกรรมฮาลาลไปทั่วโลก ทั้งนี้ องค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) คาดการณ์ว่า ตลาดอาหารและเครื่องดื่มฮาลาลจะมีมูลค่าสูงถึง 2.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้
อับดุลลา อัล มาอีนี ผู้อำนวยการทั่วไปของ ESMA กล่าวว่า "การประชุมอุตสาหกรรมฮาลาลโลก ซึ่งจัดขึ้นพร้อมกับงาน Gulfood Dubai ถือเป็นจุดนัดพบของผู้ที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมฮาลาลทั่วโลก ทั้งยังสร้างโอกาสครั้งสำคัญในการแลกเปลี่ยนความคิดและวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการเติบโตของอุตสาหกรรม ทั้งนี้ มีชาวมุสลิมมากกว่า 1.6 พันล้านคนทั่วโลกที่บริโภคผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาล"
เขากล่าวเสริมว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นผู้นำในการพัฒนาอุตสาหกรรมนี้มานานหลายปี โดยได้มีการเปิดตัวโครงการ "ดูไบ เมืองหลวงของเศรษฐกิจอิสลาม" ในปี 2556 นอกจากนั้นยังมีการจัดตั้ง "ศูนย์พัฒนาเศรษฐกิจอิสลามแห่งดูไบ" รวมทั้งมีการจัด "การประชุมรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ฮาลาลระหว่างประเทศ" โดยมี 32 ประเทศสมาชิกเข้าร่วม
นอกจากนี้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังมีอันดับดีขึ้นในดัชนีเศรษฐกิจอิสลามโลก อันเป็นผลพวงมาจากวิสัยทัศน์หลังการผลิตน้ำมัน ขณะเดียวกัน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังจัดตั้งและใช้ระบบอาหารฮาลาลเป็นครั้งแรกของโลก ซึ่งประกอบด้วยมาตรฐานและแนวปฏิบัติทั้งในส่วนของการรับรองคุณภาพและการประเมินผล
กลุ่มประเทศคณะมนตรีความร่วมมือแห่งอ่าวอาหรับ (GCC) นำเข้าผลิตภัณฑ์ฮาลาลมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ศูนย์พัฒนาเศรษฐกิจอิสลามแห่งดูไบคาดการณ์ว่า ชาวมุสลิมทั่วโลกจะบริโภคผลิตภัณฑ์ฮาลาลคิดเป็นมูลค่า 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2566
ติดต่อ
โมฮาเหม็ด ออสมาน
อีเมล: [email protected]
โทร. +971-50-268-2444
ที่มา: Arab Halal Program
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit