นายนาวินกล่าวต่อไปว่า กองทุน K-GINFRA มีการจ่ายปันผลนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนแล้วทั้งสิ้น 7 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1.55 บาทต่อหน่วย โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือน และ 1 ปี อยู่ที่ 5.60% และ 4.06% ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 5.41% และ 9.76% ต่อปี ตามลำดับ (ข้อมูล ณ วันที่ 28 ก.พ. 62) โดยกองทุนหลักได้รับอานิสงส์จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่มสาธารณูปโภค และกลุ่มขนส่ง ทั้งนี้ในภาพรวมหุ้นโครงสร้างพื้นฐานฟื้นตัวดีขึ้นจากปีก่อนกว่า 9% โดยมีแรงหนุนหลักมาจากตลาดการเงินโลกคลายความกังวลต่อนโยบายทางการเงินของสหรัฐฯ ที่เข้มงวดน้อยลง (Dovish) อย่างไรก็ตามยังต้องจับตาการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ซึ่งหากปรับตัวแรงขึ้นอาจส่งผลให้เงินทุนไหลออกจากธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐานกลับเข้าลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลได้
ด้านกองทุน K-USXNDQ-A(D) มีการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอทุกไตรมาส โดยนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมีการจ่ายปันผลแล้วทั้งสิ้น 22 ครั้ง รวมเป็นเงิน 7.35 บาทต่อหน่วย และมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือน และ 1 ปี อยู่ที่ 1.10% และ 2.30% ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 0.87% และ 3.00% ต่อปี ตามลำดับ (ข้อมูล ณ วันที่ 28 ก.พ. 62) ทั้งนี้กองทุนหลักมีนโยบายมุ่งหวังให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิงอย่าง NASDAQ-100 ซึ่งได้ปรับตัวขึ้นตามการเติบโตของหุ้นกลุ่มไอที ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีน้ำหนักเป็นส่วนมากในดัชนี นอกจากนี้คาดการณ์ว่าปีนี้เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโตชะลอลง ด้วยผลจากการทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยและการปรับลดสภาพคล่อง
สำหรับกองทุน K-CHINA มีการจ่ายปันผลนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนแล้วทั้งสิ้น 18 ครั้ง รวมเป็นเงิน 4.65 บาทต่อหน่วย โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือน และ 1 ปี อยู่ที่ 7.22% และ -7.23% ต่อปี ตามลำดับ เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 6.47% และ -10.95% ต่อปี ตามลำดับ (ข้อมูล ณ วันที่ 28 ก.พ. 62) ทั้งนี้กองทุนหลักจะเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทจีนซึ่งจดทะเบียนในจีนและฮ่องกง ที่ได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจจีน โดยภาพรวมเศรษฐกิจจีนยังคงสดใสตั้งแต่ต้นปี 62 หลังจากที่ได้ประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนยังเติบโตได้ดี ด้วยกำลังซื้อของคนในประเทศที่แข็งแกร่งและมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามประเด็นการค้าสหรัฐฯ - จีน ซึ่งแม้จะคืบหน้าไปในทิศทางบวกแต่ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน
นายนาวินกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจกระจายการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศ หรือต้องการปรับพอร์ตให้สอดรับกับสภาวะตลาดในปัจจุบัน บลจ.กสิกรไทย ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นจีน เนื่องจากราคาหุ้นจีนยังซื้อขายในระดับที่ถูกกว่าประเทศอื่น อย่างไรก็ตามเนื่องจากความไม่แน่นอนเรื่องสงครามการค้าทำให้ตลาดหุ้นจีนมีความผันผวนสูง จึงแนะนำให้ประเมินสถานการณ์ก่อนเข้าลงทุนเพิ่มเติม ในขณะที่หุ้นสหรัฐฯ มีระดับราคาหุ้นซื้อขายแพงกว่าภูมิภาคอื่น จึงแนะนำให้ชะลอการเข้าลงทุน เพื่อรอประเมินสถานการณ์การลงทุนต่อไป
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจกองทุน K-GINFRA กองทุน K-USXNDQ-A(D) และกองทุน K-CHINA สามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือติดต่อ KAsset Contact Center 0 2673 3888
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 28 ก.พ. 62
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี (ต่อปี)
3 ปี (ต่อปี)
5 ปี (ต่อปี)
ตั้งแต่จัดตั้ง (ต่อปี)
K-GINFRA
5.60%
-0.30%
4.06%
n/a
n/a
5.37%
ผลตอบแทนตัวชี้วัด
5.41%
3.03%
9.76%
n/a
n/a
7.30%
K-USXNDQ-A(D)
1.10%
-8.22%
2.30%
17.49%
13.62%
16.84%
ผลตอบแทนตัวชี้วัด
0.87%
-8.47%
3.00%
17.72%
14.00%
17.66%
K-CHINA
7.22%
2.27%
-7.23%
16.24%
9.99%
6.01%
ผลตอบแทนตัวชี้วัด
6.47%
0.12%
-10.95%
17.81%
9.63%
6.42%
ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงได้ที่ www.kasikornasset.com หรือ บลจ.กสิกรไทย หรือธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือขอข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลที่เสนอขายหน่วยลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้ยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ ทั้งนี้ เนื่องจากกองทุนมิได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนจึงอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit