โดยกองทุน KTFF 231 อายุโครงการ 12 เดือน เน้นลงทุนในเงินฝากประจำ Bank of China , AL Khalij Commercial Bank , AL AHLI Bank , Commercial Bank PQSC , MTN ของ EMIRATES NBD PJSC และ Mashreq Bank และเงินฝาก China Merchats Bank ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.10% ต่อปี
ส่วนกองทุน KTSUPB139 อายุโครงการ12 เดือน เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ทั้ง100%ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ผลตอบแทนประมาณ 1.50% ต่อปี และทั้ง2กองทุนไม่เสียภาษี หัก ณ ที่จ่าย
สำหรับอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้สหรัฐอเมริกา มีการปรับตัวลดลงตามกระแสที่นักลงทุนหันไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย ( Risk off ) หลังเศรษฐกิจในเดือนกุมภาพันธ์ชะลอตัวลง จากผลของ Shut down และจากข้อมูลการจ้างงานนอกภาพเกษตรที่ต่ำกว่าคาด องค์กรเพื่อความร่วมมือ และการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ( OECD) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลก และ ธนาคารกลางยุโรป( ECB ) กลับมาทำ Targeted Long -Term Refinancing Operation ( TLTRO) เร็วกว่าคาด ในขณะที่การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา กับจีน มีความคืบหน้ามากขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง 2 bps. มาอยู่ที่ 2.53% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 14 bps. มาอยู่ที่ 2.42% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 14 bps. มาอยู่ที่ 2.62%
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน