สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 18 มกราคม 2562

18 Jan 2019
สภาวะตลาดวันที่ 18 มกราคม 2562 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,289.10-1,292.51 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,400 บาทต่อบาททองคำ ปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,450 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG19 อยู่ที่ 19,470 บาท ปรับตัวลดลง 70 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,540 บาท

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.13 น. ของวันที่ 18/01/62)

แนวโน้มวันที่ 21 มกราคม 2562

วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐหารือเรื่องยกเลิกภาษีบางส่วนหรือทั้งหมดที่เรียกเก็บจากการนำเข้าสินค้าจากจีนและเสนอการลดภาษีสู่ระดับเท่าเดิมในการเจรจาวันที่ 30 ม.ค. แม้ว่าในภายหลังกระทรวงการคลังสหรัฐได้ออกมาปฏิเสธการตีข่าวของสื่อดังกล่าว แต่ความหวังนี้กระตุ้นแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศจีนเตรียมเยือนสหรัฐในวันที่ 30 - 31 ม.ค. ในการเจรจาการค้าอีกครั้ง เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการค้าระหว่าง 2 ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลก แนวโน้มดังกล่าวได้ผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้าสหรัฐ-จีน นอกจากนี้รัฐบาลจีนยังออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งสร้างแรงผลักดันภายในประเทศและตลาดเกิดใหม่อื่นๆ โดยคาดว่าจะส่งผลบวกอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยง โดยดัชนี MSCI ของเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นปรับขึ้นหลังหุ้นสหรัฐปรับขึ้นในรอบการซื้อขายในช่วงปลายสัปดาห์ซึ่งกดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลง อย่างไรก็ตามราคาทองคำปรับตัวลงไม่มากนัก เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากประเด็นการปิดหน่วยงานรัฐบาลบางส่วนของสหรัฐ(ชัตดาวน์) ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงให้กับเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่นายเจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเจพีมอร์แกน เชส ประเมินว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจขยายตัว 0% ในไตรมาสแรกของปีนี้ หากการชัตดาวน์ยังคงยืดเยื้อต่อไป สำหรับปัจจัยที่แนะนำติดตาม คือ นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะยื่นแผน Brexit ฉบับใหม่ต่อรัฐสภาในวันจันทร์นี้ ซึ่งเธอได้กล่าวย้ำมาโดยตลอดว่าจะไม่มีการทำประชามติ Brexit ครั้งใหม่ นอกจากนี้ ติดตามรัฐบาลจีนจะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำ Q4/2561 และทั้งปี 2561 อย่างไรก็ดีปริมาณการซื้อขายในตลาดทองคำสหรัฐอาจเบาบาง เนื่องจากตลาดสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 21 มกราคม เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง แนะนำนักลงทุนว่าการรอจังหวะซื้อเมื่อราคาทองคำไหลลงสู่แนวรับสำคัญน่าจะเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ และนักลงทุนควรปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดปัจจุบัน

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้น โดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,279-1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรก ซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,299 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,276 (19,100บาท) 1,265 (18,900บาท) 1,256 (18,800บาท)

แนวต้าน 1,299 (19,450บาท) 1,309 (19,600บาท) 1,318 (19,750บาท)

GOLD FUTURES (GFG19)

แนวรับ 1,276 (19,260บาท) 1,265 (19,100บาท) 1,256 (18,960บาท)

แนวต้าน 1,299 (19,610บาท) 1,309 (19,760บาท) 1,318 (19,900บาท)

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999