สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 14 มกราคม 2562

14 Jan 2019
สภาวะตลาดวันที่ 14 มกราคม 2562 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,287.19-1,293.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,600 บาทต่อบาททองคำ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,500 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG19 อยู่ที่ 19,680 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 30 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,650 บาท

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.11 น. ของวันที่ 14/01/62)

แนวโน้มวันที่ 15 มกราคม 2562

ข้อมูลของกรมศุลกากรจีนแสดงว่า การส่งออกจากจีนในเดือนธ.ค.หดตัวลงอย่างไม่คาดคิด 4.4% จากปีก่อน ซึ่งเป็นการร่วงลงรายเดือนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ปี ขณะที่การนำเข้าถั่วเหลืองเดือนธ.ค.ของจีนร่วงลง 40.1% จากปีก่อนหน้า จีนลดการซื้อจากสหรัฐ ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่อันดับ 2 ของจีน อันเป็นผลจากสงครามการค้าระหว่างทั้ง 2 ประเทศ ข้อมูลการค้ารายเดือนที่อ่อนแออย่างไม่คาดคิดจากจีน กระตุ้นความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ย่ำแย่ลง ท่ามกลางการชะลอตัวที่อาจจะรุนแรงขึ้นของเศรษฐกิจจีน กดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและตลาดหุ้นในหลายประเทศ แนวโน้มดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ในขณะเดียวกันประเด็นดังกล่าวได้หนุนดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับหยวนออฟชอร์ หลังการร่วงลง 1.5% เมื่อเทียบกับหยวนออฟชอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการอ่อนค่าลงรายสัปดาห์ที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2560 ส่งผลให้นักลงทุนระมัดระวังในการสะสมทองคำเพิ่ม ประกอบกับอิตาลีมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ของอิตาลี ลดลง 0.1% ในไตรมาส 3 ซึ่งอ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่ปี 2557 ประกอบกับผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสำหรับเดือนพ.ย.อ่อนแอมากกว่าที่คาด ซึ่งอิตาลีเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 3 ของยูโรโซน ประเด็นดังกล่าวกดดันสกุลเงินยูโรและราคาทองคำ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษจะต้องชนะในการลงมติในรัฐสภาในวันอังคารนี้ เพื่อให้ข้อตกลงเบร็กซิทของเธอได้รับอนุมัติ มิฉะนั้นจะเกิดความเสี่ยงที่อังกฤษอาจจะถอนตัวจากสหภาพยุโรปด้วยความยุ่งเหยิง โดยโอกาสของเธอในการชนะการลงมติดูเหมือนจะน้อยมาก แนวโน้มดังกล่าวกดดันสกุลเงินปอนด์, สกุลเงินยูโร และกดดันราคาทองคำในระยะสั้น เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาทองคำมีการอ่อนตัวลงและสามารถยืนเหนือ 1,279-1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ประเมินว่าราคาทองคำจะขยับตัวขึ้นได้ โดยประเมินแนวต้านที่บริเวณ 1,299 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้จะเกิดการย่อตัวเพื่อลงมาสร้างฐานอีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ เบื้องต้นหากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร โดยแนะนำให้รอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,279-1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากราคาทองคำปรับตัวลงยังคงมีแรงซื้อเข้ามาพยุงราคาไว้ ทำให้มีโอกาสเห็นการขยับตัวขึ้น แต่หากราคาหลุดโซน 1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงไป ให้ชะลอการลงทุนออกไปก่อน โดยแนวรับถัดไปจะอยู่ที่ระดับ 1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,299 หรือ 1,309 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,276 (19,250บาท) 1,265 (19,100บาท) 1,256 (18,950บาท)

แนวต้าน 1,299 (19,650บาท) 1,309 (19,800บาท) 1,318 (19,950บาท)

GOLD FUTURES (GFG19)

แนวรับ 1,276 (19,420บาท) 1,265 (19,250บาท) 1,256 (19,120บาท)

แนวต้าน 1,299 (19,780บาท) 1,309 (19,930บาท) 1,318 (20,060บาท)

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999