ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
แนวโน้มราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปิดตลาดวันศุกร์ลดลงจากการเทขายทำกำไรระยะสั้นของนักลงทุน หลังมีข่าวจีนอาจใช้กรอบ ประมาณการอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ปี พ.ศ. 2562 ที่ระดับ 6-6.5% ต่อปี โดยประเมินความเสี่ยงทางเศรษฐกิจของประเทศขาลง เมื่อเทียบกับประมาณการปี พ.ศ. 2561 ซึ่งใช้เลข 6.5% ต่อปี และเป็นระดับ GDPที่ต่ำที่สุดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 หรือในรอบ 29 ปี นักวิเคราะห์ประเมินว่าในปี พ.ศ. 2562 รัฐบาลจีนจะมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาใช้ อย่างไรก็ดีตลาดน้ำมันกำลังกลับเข้าสู่สภาวะสมดุล จากแผนการลดปริมาณการผลิตของ OPEC และกลุ่มพันธมิตร ล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบีย นาย Khalid al-Falih แถลงในเดือน ม.ค. 62 OPECผลิตน้ำมันดิบลดลงจากเดือนก่อน 600,000 บาร์เรลต่อวัน ขณะที่รัสเซียผลิตน้ำมันดิบลดลง 30,000 บาร์เรลต่อวัน จากเดือน ต.ค. 61 ที่ระดับ 11.41 ล้านบาร์เรลต่อวัน (จากข้อตกลง กับ OPEC รัสเซียมีแผนลดปริมาณการผลิต 230,000 บาร์เรลต่อวัน จากการผลิตในเดือน ต.ค. 61) และ OPEC มีแผนจัดการประชุมครั้งต่อไปในเดือน เม.ย. 62 เพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันจนถึงสิ้นปี พ.ศ. 2562 นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ยังไม่มีท่าทีขยายเวลาการผ่อนผันการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านให้แก่ประเทศนำเข้า 8 ประเทศ ที่จะสิ้นสุดในเดือน พ.ค. 62 ทั้งนี้รัฐบาลสหรัฐฯ ให้เหตุผลว่าอิหร่านเป็นประเทศที่ให้การสนับสนุนการก่อการร้ายเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และ 80 % ของรายได้จากประเทศอิหร่านมาจากการส่งออกน้ำมันดิบ ทางเทคนิคราคาน้ำมันดิบ ICE Brent จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 58.0-63.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบ NYMEX WTI อยู่ในกรอบ 49.0-54.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบ Dubai จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 59.5-64.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นเนื่องจาก Ceylon Petroleum Corp. (Ceypetco) ของศรีลังกาออกประมูลซื้อน้ำมันเบนซิน ปริมาณ 319,000 บาร์เรล ส่งมอบวันที่ 15-16 ก.พ. 62 และ Pakistan State Oil (PSO) ของปากีสถานซื้อน้ำมันเบนซิน 92 RON จำนวน 4 เที่ยวเรือๆ ละ 385,000 บาร์เรล ปริมาณรวม 1.5 ล้านบาร์เรล ส่งมอบ 1-21 ก.พ. 62 และ China National Offshore Oil Corp. (CNOOC) ของจีนมีแผนปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น Huizhou (กำลังการกลั่น 240,000 บาร์เรลต่อวัน ) ตั้งแต่ปลายเดือน ก.พ. 62 เป็นเวลา 50 วัน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนประกาศโควตาส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปให้กับโรงกลั่นน้ำมันของรัฐรอบแรกของปี พ.ศ. 2562 ปริมาณรวม 18.36 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากโควตาส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปรอบแรกของปีก่อนที่ 11.55% และ Platts รายงานว่าภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกนำเข้า น้ำมันเบนซินจากยุโรปลดลง เนื่องจากไนจีเรียเก็บสำรองล่วงหน้าก่อนการเลือกตั้งวันที่ 16 ก.พ. 62 เพียงพอแล้ว ด้านปริมาณสำรองน้ำมัน EIA รายงานปริมาณสำรอง น้ำมันเบนซินเชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 ม.ค. 62 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 8.1 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 248.1 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบกว่า 11 เดือน และ IES รายงานปริมาณสำรอง Light Distillates เชิงพาณิชย์ที่สิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 ม.ค. 62 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 670,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 15.43 ล้านบาร์เรล ทางด้านเทคนิคในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันเบนซินจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 62.5-67.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลเฉลี่ยรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นเนื่องจาก Platts รายงานตลาดน้ำมันดีเซลในยุโรปตึงตัว เนื่องจากการส่งออกน้ำมันดีเซลจากท่าเรือที่ทะเลดำ มาสู่บริเวณเมดิเตอร์เรเนียนล่าช้า และ Platts รายงานว่าระดับน้ำในแม่น้ำไรน์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ขีดความสามารถในการระบายน้ำมันดีเซลจากจุดส่งมอบบริเวณ Amsterdam-Rotterdam-Antwerp (ARA) สู่ภาคพื้นทวีปยุโรปดีขึ้น ด้านปริมาณสำรองน้ำมัน IES รายงานปริมาณสำรอง Middle Distillates เชิงพาณิชย์ที่สิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 ม.ค. 62ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 200,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ 11.13 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม Platts รายงานว่าจีนและเกาหลีใต้ส่งออกน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น ขณะที่อุปทาน น้ำมันดีเซลในตะวันออกกลางมีอยู่มาก ด้านปริมาณสำรอง EIA รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดีเซลเชิงพาณิชย์ที่สหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 ม.ค. 62 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 10.6 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 140 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบ 4 เดือน ด้านเทคนิคในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดีเซล จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 73.5-78.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล