นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ถือเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญของ ททท. มีการจัดต่อเนื่องยาวนาน โดยมุ่งเน้นการเผยแพร่ข้อมูลและกิจกรรมทางการท่องเที่ยวทั่วประเทศ ให้ประชาชนได้รับทราบและสามารถวางแผนเดินทางไปยังสถานที่นั้นๆ อีกทั้ง ยังได้รับความสนุกสนาน บันเทิง ได้ชมศิลปะและชิมอาหารถิ่นจากต้นตำรับแท้ๆ ในระหว่างที่เข้าชมงานอีกด้วย ซึ่งในแต่ละปี ททท. ได้สร้างสรรค์กิจกรรมให้มีความหลากหลายและน่าสนใจ สำหรับในปีนี้ งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย 2562 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 39 ณ สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร ซึ่งประกอบด้วย 9 โซน แต่ละโซนล้วนมีกิจกรรมที่โดดเด่นแตกต่างกัน ในปีนี้ ททท. ชวนคนไทยและนักท่องเที่ยว มาปลุกกระแสการเที่ยวเท่ๆ ในเมืองไทย แบบ"amazingไทยเท่" ภายใต้แนวคิด "เมืองไทย....สวยทุกที่ เท่ทุกเวลา" พบไฮไลท์กิจกรรมเด่นภายในงาน ไม่ว่าจะเป็น หมู่บ้านท่องเที่ยว 5 ภูมิภาค ภายใต้แนวคิด "ไทยเท่ 5 ภูมิภาค" พิเศษในปีนี้ คือ การเสนอขายแพ็คเก็จทัวร์จากผู้ประกอบการท่องเที่ยวและสายการบิน ภายใต้แนวคิด "เที่ยวไทย สุดคุ้ม" ถึง 90 เส้นทาง และอีกกิจกรรมที่ถือเป็นจุดเน้นสำคัญและ ททท. ต้องการสร้างเป็นต้นแบบสำหรับการจัดกิจกรรมของ ททท. ต่อไปคือ คือ กิจกรรมภายใต้แนวคิด "ลด โลก เลอะ" ซึ่งถือปฏิบัติในทุกโซน ได้แก่ การลดการใช้โฟม พลาสติก และการกำจัดขยะอย่างเป็นระบบ อีกทั้ง ขอความร่วมมือจากผู้ร่วมงานและผู้ชมงานทุกคนใช้ถุงผ้า กระบอกน้ำ และกล่องบรรจุอาหาร โดย ททท. ได้รับความร่วมมือจาก บจม. เอสซีจี แพคเกจจิ้ง และ บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้กับร้านค้า
ในราคาพิเศษ เพื่อร่วมส่งเสริมแนวคิด "ลด โลก เลอะ" ของ ททท. อาทิ กล่องอาหาร จาน ชาม ถ้วย แก้วน้ำร้อน แก้วน้ำเย็น หลอด ช้อน ส้อม มีด กระดาษเช็ดปาก เป็นต้น อีกทั้ง โซนที่ 7 เมืองไทยสวยด้วยสองมือ "ขยะให้โชค" มีกิจกรรมการให้ความรู้เรื่องการจัดการขยะ กิจกรรมขยะให้โชค และการท่องเที่ยวแนวคิด "7Greens" อีกด้วย รวมถึง ททท. รับผิดชอบต่อขวดน้ำน้องสุขใจที่ ททท. เป็นผู้จำหน่าย โดยการสร้างกิจกรรม "ขวดสุขใจ 5 เปล่าแลก 1 น้ำ" คือ สามารถนำขวดเปล่าของน้ำน้องสุขใจ 5 ขวด ไปแลกน้ำน้องสุขใจได้ 1 ขวด หรือหากนำขวดเปล่าของน้ำน้องสุขใจ ไปเล่นเกมส์กิจกรรมขยะให้โชคก็จะได้แต้มพิเศษ ในการเล่นเกมส์แลกของรางวัลได้อีกด้วยเช่นกัน โดย ททท.จะเป็นผู้รับผิดชอบในการกำจัดขยะดังกล่าวเอง
สำหรับภายในงานมีการนำเสนอกิจกรรมการท่องเที่ยว 9 โซนที่เป็นไฮไลท์ ได้แก่
โซนที่ 1 ไทยเที่ยวไทย ไทยยั่งยืน
บริเวณหน้าลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 ด้วยการตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบและติดตั้ง
แลนด์มาร์คลอยตัว สะท้อนเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น ได้แก่ แลนด์มาร์คปลาตะเพียนสาน แลนด์มาร์ค
ร่มบ่อสร้าง แลนด์มาร์คธุงอีสานใยแมงมุม แลนด์มาร์คงานจักสานและกกย้อมสี และแลนด์มาร์คกรงนก
โซนที่ 2 เที่ยวไทย สุดคุ้ม
แนะนำโปรแกรมและสินค้าท่องเที่ยว ที่ทุกคนจะได้สัมผัสเสน่ห์ ประสบการณ์ที่สนุกสนาน ชุมชน น่าเที่ยว อาหารห้ามพลาด โดยแบ่งเป็น 5 แบบ ได้แก่ ภาคเหนือ : เส้นทางบอกเล่าเรื่องราวผ่านวิถีผ้า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : เส้นทางอาหารภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาคกลาง : เส้นทางวิถีแห่งสายน้ำอารยธรรมอันรุ่งเรืองสืบทอดจากอดีตสู่ปัจจุบัน ภาคตะวันออก : เส้นทางสนุกสนาน เรียนรู้ เติมสีสันให้ชีวิต เที่ยวชุมชน และภาคใต้ : เส้นทางแห่งแรงบันดาลใจให้เยือนภาคใต้ สักครั้งในชีวิต รวมแล้วถึง 90 เส้นทาง ซึ่งจะจำหน่ายและ แนะนำโปรแกรมการท่องเที่ยวโดยสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ
โซนที่ 3 ไทยเท่ 5 ภูมิภาค นำเสนอหมู่บ้านท่องเที่ยวทั้ง 5 ภูมิภาค เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศจำลองเสมือนจริง นำเสนอในแนวคิดที่แตกต่างกัน ได้แก่ ภาคกลาง : More Legacy มรดกแห่งสยาม ภาคเหนือ :
More Authentic ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : More Gastronomy ภาคตะวันออก : More Fun และภาคใต้ : More Inspired ซึ่งแต่ละภาคได้ยกการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมที่หาชมได้ยาก อาหารถิ่น สินค้าที่ระลึก ให้เลือกชิมเลือกชอปอย่างจุใจ และกิจกรรม DIY พร้อมมุมถ่ายภาพที่สวยงาม
โซนที่ 4 ของดี กทม.
คัดสรรอาหารดี อาหารเด็ดของ 50 เขตกทม. มานำเสนอ ภายใต้แนวความคิด Bangkok 24 hrs. หรือ "กรุงเทพฯ...กินได้ทุกที่ เท่ทุกเวลา" ซึ่งกรุงเทพฯ ถือเป็นสวรรค์ของนักชิม ที่สามารถหาอาหารอร่อยได้ตลอดเวลา พร้อมจัดกิจกรรมการแสดง และจุดบริการข้อมูลข่าวสาร แนะนำแหล่งท่องเที่ยวของแต่ละเขต
โซนที่ 5 เวทีใหญ่
กิจกรรมบันเทิง การแสดงศิลปวัฒนธรรมในแต่ละภูมิภาค การแสดงศิลปะร่วมสมัย เติมเต็มความสุข ความสนุกของผู้เข้าชมงาน พลาดไม่ได้กับ การแสดงโขนพระราชทาน (วันที่ 24 มกราคม 2562 เวลา 17.30 – 18.30 น.) การแสดงละครนอก การแสดงมโนราห์เรืองแสง การแสดงผีตาโขนประยุกต์ รวมถึงการแสดงของศิลปินที่มีชื่อเสียง เช่น หนึ่ง จักรวาล, ปาล์มมี่, หญิงลี, เจ เจตริน, บ่าววี, นนท์ ธนนท์, แสตมป์ อภิวัชร์, Getsnova, Potato, Scrubb และ Twopee เป็นต้น
โซนที่ 6 TAT STUDIO และ Startup
พื้นที่นำเสนอส่วนผสมของข้อมูลทางการท่องเที่ยวและเทคโนโลยีสู่การสื่อสารเชิงการตลาด ผ่านสถานีข่าว ททท. หรือ TAT STUDIO ที่จะผลิตและนำเสนอข้อมูลทางการตลาดท่องเที่ยวของงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยทุกโซน ทุกพื้นที่ ในรูปแบบการรายงานข่าว สกู๊ปข่าว สัมภาษณ์พิเศษ การถ่ายทอดสดกิจกรรมที่น่าสนใจ ไปสู่ผู้ชมงาน ร่วมถ่ายภาพกับภาพ Graffiti ที่สร้างสรรค์แหล่งท่องเที่ยวด้วยศิลปะร่วมสมัย พร้อมทั้งการนำเสนอของบริษัทที่ให้บริการทางการท่องเที่ยวของเหล่านักธุรกิจ Startup ร่วมด้วยกิจกรรมความสนุกอีกมากมาย
โซนที่ 7 เมืองไทยสวยด้วยสองมือ "ขยะให้โชค"
ส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสวิถีไทย และสร้างกระแสใส่ใจสิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยวแนวคิด "7 Greens" โดยร่วมกันรณรงค์ปลูกจิตสำนึกและกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวร่วมกันรับผิดชอบต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ลดการสร้างขยะในแหล่งท่องเที่ยว พบการเสวนา โดยบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวแนะนำการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ อาทิ I Roam Alone, Journeyเจอนี่ และพาลูกเที่ยวดะ สนุกกับเกมส์แยกขยะ การนำขยะรีไซเคิล ขวด pet ขวดแก้ว และกระป๋อง มาแลกเพื่อร่วมลุ้นของรางวัล การจัดกิจกรรมบนเวทีการแสดงและนำเสนอกิจกรรมท่องเที่ยวใส่ใจในสิ่งแวดล้อมโดยผู้มีชื่อเสียง ดาราและศิลปิน อาทิ BNK48, กอล์ฟ – พิชญะ, ฮั่น เดอะสตาร์, หมวดแวนRapper, ปุณ ศิริปัญญา, ดนตรี EDM DJ Roxy june และ DJ ICON
โซนที่ 8 เมืองไทย…ใครๆ ก็เที่ยวได้ นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวที่คนไทยทุกคนสามารถเที่ยวได้ Tourism for All พร้อมชมการสาธิต และการจำหน่ายสินค้าจากผู้ด้อยโอกาสทางร่างกายที่จะมาอวดฝีมือให้ผู้ร่วมงานได้ช้อปสินค้ากลับบ้าน
โซนที่ 9 พันธมิตรท่องเที่ยวไทย
นำเสนอสินค้าจากหน่วยงานเจ้าของสถานที่ท่องเที่ยว เช่น Dino Park โดยกรมทรัพยากรธรณี ความสุขจากใจชุมชนรอบเขื่อน โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และหน่วยงานพันธมิตรด้านการท่องเที่ยวไทย อีกมากมาย อาทิ มูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ บจ. ไปรษณีย์ไทย จำกัด ผู้สนับสนุน ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
นางอภิศักดิ์ ภูริวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร ยินดีและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนกิจกรรมเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ซึ่งนอกจากการสนับสนุนพื้นที่การจัดงานแล้ว ยังได้คัดสรรของดีมานำเสนอในโซนที่ 4 คือ โซน ของดีกทม. ในแนวความคิด Bangkok 24 hrs. หรือ "กรุงเทพฯ...กินได้ทุกที่ เท่ทุกเวลา" ซึ่งถือเป็นสวรรค์ของนักชิม ที่สามารถหาของรับประทานได้ตลอดวัน โดยนำเสนออาหารเด่นและของดีแต่ละย่านมารวมไว้ในงาน พร้อมจัดกิจกรรมการแสดง และจุดบริการข้อมูลข่าวสาร แนะนำแหล่งท่องเที่ยวภายในเขตของกรุงเทพมหานคร ซึ่งนอกจากมิติของการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยแล้ว กรุงเทพมหานครยังให้ความสำคัญกับความสะอาดและความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมงาน โดยได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมมาตรการต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีความสุข สนุกสนานและเพลิดเพลินตลอดการจัดงานทั้ง 5 วัน
ผู้ว่าการ ททท. กล่าวในตอนท้ายว่า การจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ประจำปี 2562 ครั้งนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงานไม่ต่ำกว่า 600,000 คน หวังสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวจริงไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของผู้เข้าชมงาน สำหรับผู้ที่สนใจร่วมชมงาน ขอแนะนำให้เดินทางด้วยรถบริการสาธารณะ และนำถุงผ้า กระบอกน้ำ กล่องข้าวมาร่วมงาน เพื่อช่วยกัน "ลด โลก เลอะ" ทั้งนี้ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 1672 เพื่อนร่วมทาง , www.tourismthailand.org และ Facebook : Amazing Thailand
HTML::image( HTML::image( HTML::image(