มอเตอร์ไซค์รุ่นไลฟ์ไวร์แสดงให้เห็นถึงอนาคตของแบรนด์ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ในการนำเสนอการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง ภายใต้ดีไซน์คลาสสิก และการเชื่อมต่อออนไลน์กับผู้ขับขี่ในปัจจุบัน ไลฟ์ไวร์คือมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่มอบประสบการณ์การเดินทางแบบสองล้อรูปแบบใหม่ ด้วยอัตราเร่งที่แรงเร้าใจ การควบคุมที่ฉับไวคล่องตัว โดดเด่นด้วยวัสดุและการเคลือบสีระดับพรีเมียมในทุกชิ้นส่วน มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าเต็มอัตราและอินเตอร์เฟซเพื่อมอบประสบการณ์การเชื่อมต่ออันไร้ที่ติ
ไลฟ์ไวร์มอบประสิทธิภาพการขับขี่ขั้นสูงเพื่อนำเสนอประสบการณ์การเดินทางอันน่ารื่นรมย์สำหรับนักขี่ตัวจริง และในขณะเดียวกันด้วยการออกแบบเป็นมอเตอร์ไซค์แบบไม่มีคลัทช์ จึงทำให้นักขี่มือใหม่สามารถควบคุมรถได้อย่างง่ายดายด้วยเช่นกัน การเปิดตัวมอเตอร์ไซค์รุ่นไลฟ์ไวร์นี้ถือเป็นการส่งเสริมการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ปี 2027 ของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ในการยืนหยัดธุรกิจในสหรัฐอเมริกัน การเร่งอัตราการเติบโตในตลาดต่างประเทศ การดึงดูดและสร้างนักขี่รุ่นใหม่ในประเทศต่าง ๆ และการเสริมสร้างให้บริษัทก้าวขึ้นสู่สถานะผู้นำในอุตสาหกรรมระบบไฟฟ้าสำหรับยานยนต์สองล้อแห่งอนาคต
"เรากำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อบนหน้าประวัติศาสตร์แห่งวิวัฒนาการการเดินทาง และฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ก็อยู่แนวหน้าของเรื่องนี้" มร. แมตต์ ลาวาทิช ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน กล่าว "นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนทั้งร่างกายและจิตวิญญาณถือเป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน มาโดยตลอด และการเดินทางบทใหม่ในหน้าประวัติศาสตร์ของเราครั้งนี้ ก็คือการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และโอกาส ทั้งเพื่อนักขี่มอเตอร์ไซค์ในปัจจุบันและนักขี่หน้าใหม่ในทุกระดับอายุและทุกวิถีชีวิต"
ประสบการณ์การเดินทางรูปแบบใหม่อันเปี่ยมด้วยพลังในแบบฉบับฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ไลฟ์ไวร์คือการผสมผสานที่สมบูรณ์แบบของขุมพลัง ประสิทธิภาพ และเทคโนโลยีการขับขี่ ที่เปิดกว้างสำหรับนักขี่มอเตอร์ไซค์หน้าใหม่ และมอบความเร้าใจสุดพลังแก่นักขี่ตัวจริง ด้วยการนำเสนอฟีเจอร์สุดล้ำมากมาย ได้แก่
อัตราเร่งแรงเร้าใจ: ไลฟ์ไวร์สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 3.5 วินาที ด้วยระบบส่งกำลังไฟฟ้า H-D Revelation จึงมอบแรงบิดได้เต็ม 100% ในทันทีที่บิดคันเร่ง และคงแรงบิดแบบเต็มร้อยได้ทุกเวลาที่ต้องการ
ขับขี่ง่ายสไตล์ Twist-and-go: เนื่องจากระบบไฟฟ้าไม่ต้องใช้คลัทช์และการเปลี่ยนเกียร์ ทำให้ไลฟ์ไวร์เป็นมอเตอร์ไซค์ที่ง่ายต่อการขับขี่สำหรับมือใหม่ มาพร้อมระบบชาร์จอัตโนมัติเมื่อผู้ขับเบรกเพื่อสร้างพลังงานสำหรับนำกลับมาใช้ใหม่ โดยจะประจุไฟเข้าสู่แบตเตอรี่ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในเขตเมืองใหญ่ที่ต้องหยุดรถและออกตัวบ่อยครั้ง
เชื่อมต่อด้วย H-D Connect: ไลฟ์ไวร์ติดตั้งระบบ H-D Connect ซึ่งเชื่อมต่อนักขี่เข้ากับมอเตอร์ไซค์ผ่านหน่วยควบคุมเทเลแมติกส์บนคลื่นความถี่แอลทีอี (LTE-enabled Telematics Control Unit) พร้อมการเชื่อมต่อและบริการคลาวด์ด้วยแอปพลิเคชั่นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ด้วยระบบ H-D Connect นี้ ข้อมูลการขับขี่จะถูกเก็บรวบรวมและส่งต่อไปยังแอปพลิเคชั่น เพื่อนำเสนอชุดข้อมูลในสมาร์ทโฟน ซึ่งครอบคลุมข้อมูลด้านต่าง ๆ ได้แก่:
สถานะของมอเตอร์ไซค์: ระบบ H-D Connect จะบอกสถานะแบตเตอรี่และระยะทางที่เดินทางไปถึงได้จากที่ตำแหน่งตั้งหากมีสัญญาณโทรศัพท์เข้าถึง ซึ่งช่วยให้นักขี่สามารถตรวจสอบสถานะการชาร์จไฟ ทั้งระดับการชาร์จและเวลาสำหรับการชาร์จเต็ม นักขี่ยังสามารถค้นหาสถานีจุดชาร์จไฟจากฟังก์ชั่นการค้นหา ซึ่งติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานในแอปพลิเคชั่น H-D App
สัญญาณเตือนการรบกวนและแจ้งตำแหน่งยานพาหนะ: ระบบ H-D Connect จะระบุตำแหน่งที่จอดของไลฟ์ไวร์และสามารถส่งสัญญาณเตือนมายังสมาร์ทโฟนหากตัวรถถูกรบกวนหรือถูกเคลื่อนย้าย ทั้งยังมีฟังก์ชั่นติดตามการโจรกรรมผ่านเครือข่ายดาวเทียมจีพีเอส เพื่อมอบความอุ่นใจให้สามารถติดตามตำแหน่งของมอเตอร์ไซค์ได้ตลอดเวลา (ฟังก์ชั่นนี้ใช้ได้เฉพาะบางประเทศที่มีกฎหมายรองรับ)
ระบบเตือนความจำและการแจ้งเตือน: แอปพลิเคชั่นมีบริการแจ้งเตือนการเข้ารับบริการที่ใกล้จะมาถึง รวมถึงการแจ้งเตือนกำหนดการบำรุงรักษาอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังมีการเตือนความจำเกี่ยวกับตารางการรับบริการแบบอัตโนมัติประสิทธิภาพและระยะทางการขับขี่ที่ปรับปรุงขึ้นเพื่อการเดินทางในเมือง: ด้วยการชาร์จไฟเพียงหนึ่งครั้ง ไลฟ์ไวร์สามารถขับขี่เป็นระยะทางไกลถึง 110 ไมล์บนถนนทางเรียบ
ประสิทธิภาพการควบคุมและการบังคับ: แชสซีของไลฟ์ไวร์ได้รับการออกแบบให้สามารถควบคุมได้อย่างคล่องตัว ทั้งเพื่อสร้างความมั่นใจของการเดินทางในเขตเมือง และมอบความเร้าใจในการเดินทางบนเส้นทางที่คดเคี้ยว ระบบส่งกำลังไฟฟ้า H-D Revelation ติดตั้งในส่วนล่างของตัวรถเพื่อลดระดับจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลงและช่วยให้สามารถควบคุมการทรงตัวได้ดีขึ้นในทุกระดับความเร็ว ทั้งยังทำให้ควบคุมตัวรถได้ง่ายขึ้นในขณะหยุดรถ นอกจากนี้ ยังติดตั้งเทคโนโลยีระดับพรีเมี่ยม ทั้ง Electronic Chassis Control ซึ่งกำหนดเป็นค่ามาตรฐาน รวมถึงระบบเบรกป้องกันล้อล็อกขณะเข้าโค้ง (Cornering-enhanced Anti-lock Braking System) และระบบป้องกันการลื่นไถล (Traction Control) โดยระบบต่าง ๆ ควบคุมด้วยไฟฟ้าและเครื่องวัดแรงเฉื่อยรุ่นใหม่ล่าสุด รวมถึงเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ป้องกันการเบรกจนล้อล็อกตาย (ABS) ที่ทันสมัย
เสียงเครื่องยนต์แบบฉบับฮาร์ลีย์-เดวิดสัน และการสั่นระดับต่ำสุด: ด้วยระบบส่งกำลังไฟฟ้า H-D Revelation ของไลฟ์ไวร์ ทำให้เกิดการสั่น ความร้อน และเสียงรบกวนในระดับต่ำสุด เพื่อมอบความรู้สึกสบายในการขับขี่ ทั้งยังถูกออกแบบให้มีเสียงเครื่องยนต์อันเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของมอเตอร์ไซค์ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ทั้งในขณะเร่งเครื่องและรักษาระดับความเร็ว โดยรูปแบบเสียงแห่งอนาคตนี้แสดงถึงระบบไฟฟ้าที่ทำงานได้อย่างราบรื่นของไลฟ์ไวร์อย่างชัดเจน
จากโครงการไลฟ์ไวร์สู่การสร้างสรรค์มอเตอร์ไซค์ไลฟ์ไวร์ที่เป็นรูปธรรม วิสัยทัศน์เบื้องหลังการสร้างสรรค์มอเตอร์ไซค์รุ่นไลฟ์ไวร์เริ่มต้นจากโครงการไลฟ์ไวร์ (Project LiveWire) ซึ่งมีการผลิตรถต้นแบบเมื่อปี ค.ศ. 2014 ตลอดระยะเวลาการสร้างรถตัวอย่าง โครงการไลฟ์ไวร์ได้มอบโอกาสให้ลูกค้าสามารถส่งความคิดเห็นถึงสิ่งที่พวกเขาต้องการจากมอเตอร์ไซค์ระบบไฟฟ้าของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน และร่วมกำหนดทิศทางการพัฒนามอเตอร์ไซค์รุ่นนี้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าบริษัทเป็นสำคัญ ซึ่งบริษัทได้รับผลตอบรับอย่างดีเยี่ยม ทำให้การผลิตมอเตอร์ไซค์ไลฟ์ไวร์มีการผนวกรวมองค์ความรู้ทั้งจากการพัฒนาต้นแบบ ความคิดเห็นจากลูกค้าที่ทดลองใช้รถตัวอย่าง ความก้าวหน้าด้านการออกแบบของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน และเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุด
ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน เผยโฉมรถต้นแบบสองล้อระบบไฟฟ้าน้ำหนักเบา 2 รุ่นที่พลิกโฉมวงการในงาน CES นอกเหนือจากมอเตอร์ไซค์รุ่นไลฟ์ไวร์ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ชั้นนำระดับโลกซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 115 ปี ยังได้เผยโฉมรถสองล้อระบบไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่อีก 2 รุ่นในงาน Consumer Electronics Show (CES) ที่เมืองลาสเวกัส โดยทั้งมอเตอร์ไซค์ 2020 ไลฟ์ไวร์ และรถต้นแบบระบบไฟฟ้าน้ำหนักเบาทั้ง 2 รุ่นนี้ ถือเป็นการก้าวสู่ยุคพลังงานไฟฟ้าครั้งสำคัญของแบรนด์ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านประสบการณ์การเดินทางและเทคโนโลยี พร้อมสไตล์และการออกแบบแนวคลาสสิกที่เป็นเอกลักษณ์
แนวคิดรถระบบไฟฟ้าเหล่านี้ถือเป็นหนึ่งในการก้าวสู่อนาคตที่แตกต่างของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน เพื่อการสำรวจถึงโอกาสใหม่ ๆ ของการตอบสนองด้านการเดินทางในเขตเมืองและการประยุกต์ใช้งานยานยนต์สองล้อในอนาคต รถระบบไฟฟ้าทั้งสองแนวคิดนี้ทำให้ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ได้ใช้ความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์ประสบการณ์การเดินทางด้วยรถสองล้อที่โดดเด่น และขยายขอบเขตการออกแบบและเทคโนโลยีให้กว้างไกลยิ่งขึ้น
ในปี 2018 ที่ผ่านมา ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ได้ออกแถลงการณ์ More Roads เพื่อประกาศวิสัยทัศน์ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ เพื่อให้ลูกค้าในวงกว้างสามารถเข้าถึงแบรนด์และเสริมสร้างความสัมพันธ์กัเครือข่ายผู้จำหน่ายให้เข้มแข็ง ซึ่งการนำเสนอรถระบบไฟฟ้าทั้งสองแนวคิด ร่วมกับการเปิดตัวมอเตอร์ไซค์รุ่นไลฟ์ไวร์ ถือเป็นการส่งเสริมวิสัยทัศน์ดังกล่าว และเพิ่มทางเลือกในกลุ่มผลิตภัณฑ์รถสองล้อระบบไฟฟ้าซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อยกสถานะ ให้ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ก้าวสู่ความเป็นผู้นำของการเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้าในอนาคตข้างหน้า และสร้างแรงบันดาลใจแก่นักขี่หน้าใหม่ด้วยรูปแบบการเดินทางใหม่ ๆ ที่ยังคงเอกลักษณ์ของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ได้อย่างสง่างาม
ดูข้อมูลเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์รุ่นฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ไลฟ์ไวร์ รวมถึงรุ่นอื่น ๆ ได้ที่เว็บไซต์ Harley-Davidson.com/Electric
และติดตามข่าวสารได้ที่ช่องทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือ อินสตาแกรม
เกี่ยวกับ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน มอเตอร์ คอมพานี
นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2446 ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน(R) มอเตอร์ คอมพานี เติมเต็มความฝันของการมีอิสรภาพส่วนบุคคลด้วยรถมอเตอร์ไซด์แนวครูสเซอร์ ทัวร์ริ่ง และคัสตอม มอบประสบการณ์ขับขี่และกิจกรรม ตลอดจนอะไหล่ชิ้นส่วน อุปกรณ์ตกแต่ง ของที่ระลึก อุปกรณ์สวมใส่สำหรับการขับขี่ และเครื่องแต่งกายของฮาร์ลีย์-เดวิดสันที่ครอบคลุม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ H-D.com
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit