(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.54 น. ของวันที่ 29/01/62)
แนวโน้มวันที่ 30 มกราคม 2562
นักลงทุนจับตาผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)วันที่ 29-30 ม.ค. ท่ามกลางการคาดการณ์ในวงกว้างว่า แนวทางการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดทั้งในแง่ของการปรับลดขนาดงบดุลและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน จากแนวโน้มการชะลอตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลก, ความผันผวนในตลาดหุ้น และภาวะชัตดาวน์ที่ยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงที่ผ่านมาได้สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจคิดเป็นวงเงินถึง 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำให้ตลาดคาดว่าเฟดจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.25-2.50% พร้อมกับอาจมีการส่งสัญญาณชะลอการคุมเข้มนโยบายการเงิน และยอมรับถึงความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ FedWatch Tool ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐจาก CME Group พบว่า เทรดเดอร์คาดว่าเฟดจะไม่สามารถปรับขึ้นดอกเบี้ยแม้แต่ครั้งเดียวในปีนี้ ซึ่งห่างไกลจากการคาดการณ์ของเฟดที่คาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยนักลงทุนกำลังรอการเปิดเผยแถลงการณ์หลังการประชุม (FOMC Statement) รวมไปถึงถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ความชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ทั้งนี้ หากเฟดส่งสัญญาณในเชิงพิราบ(Dovish) หรือ แสดงมุมมองในเชิงลบหรือแสดงความวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงของเศรษฐกิจสหรัฐจริงดังคาดปัจจัยดังกล่าวจะหนุนราคาทองคำ อย่างไรก็ตามตลาดตอบรับการคาดการณ์ดังกล่าวไปพอสมควรแล้ว นักลงทุนจึงต้องระมัดระวังเพราะหากเฟดส่งสัญญาณในเชิงพิราบ(Dovish)น้อยกว่าที่คาดไว้อาจส่งผลให้เกิดแรงขายในตลาดทองคำได้ เบื้องต้นแนะนำให้จับตาราคาทองคำบริเวณ 1,318 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจจะอ่อนตัวลงมาบ้าง โดยประเมินแนวรับไว้ในบริเวณ 1,293-1,287 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากสามารถยืนเหนือบริเวณนี้ได้มีโอกาสเกิดแรงซื้อดันราคาขึ้นอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำให้ลงทุนระยะสั้น โดยซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,293-1,287 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัว และพยายามทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ราคาเคลื่อนไหวในกรอบในระยะสั้น อย่างไรก็ตามหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิค ดังนั้นนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,318 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนเมื่อราคาตั้งฐานได้อีกครั้ง
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,287 (19,150บาท) 1,276 (19,000บาท) 1,265 (18,800บาท)
แนวต้าน 1,318 (19,650บาท) 1,326 (19,750บาท) 1,334 (19,850บาท)
GOLD FUTURES (GFG19)
แนวรับ 1,287 (19,310บาท) 1,276 (19,140บาท) 1,265 (18,980บาท)
แนวต้าน 1,318 (19,770บาท) 1,326 (19,890บาท) 1,334 (20,010บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit