ADNOC ขึ้นแท่นแบรนด์มูลค่าสูงสุดของตะวันออกกลาง

23 Jan 2019
- การได้รับเกียรติครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการรวมแบรนด์ของ ADNOC เป็นหนึ่งเดียว เพื่อเน้นให้เห็นถึงขนาดของธุรกิจ การมีส่วนสนับสนุนของแบรนด์ต่อเศรษฐกิจยูเออี และผลกระทบเชิงบวกต่ออุตสาหกรรม
ADNOC ขึ้นแท่นแบรนด์มูลค่าสูงสุดของตะวันออกกลาง
  • ADNOC เดินหน้าพลิกโฉมธุรกิจสู่การเป็นบริษัทพลังงานครบวงจรชั้นนำ ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยการทำตลาดเชิงรุกและการสื่อสารเชิงกลยุทธ์

บริษัทน้ำมันแห่งชาติอาบูดาบี (Abu Dhabi National Oil Company หรือ ADNOC) ได้รับการจัดอันดับให้เป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในตะวันออกกลาง โดย Brand Finance ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการประเมินมูลค่าแบรนด์ชั้นนำของโลก

(รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/811534/ADNOC_Infographic.jpg )

ADNOC เป็นบริษัทน้ำมันและก๊าซระดับภูมิภาคแห่งแรกที่ได้รับการจัดอันดับในรายงาน Brand Finance Global 500 ประจำปี ด้วยมูลค่าแบรนด์ที่ USD 8.9 พันล้าน (AED 32.69 พันล้าน) และเป็นหนึ่งในห้าแบรนด์จากตะวันออกกลางที่มีชื่อติดอันดับแบรนด์มูลค่าสูงสุด 500 อันดับแรกของโลก

ดร. สุลต่าน อาห์เหม็ด อัล จาเบอร์ รัฐมนตรีของยูเออี และซีอีโอ ADNOC Group กล่าวว่า "ADNOC ผ่านการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจครั้งสำคัญตามแนวทางชี้แนะของผู้นำองค์กร โดยการดำเนินการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากความร่วมมือของหุ้นส่วนและการลงทุนต่างๆ ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญที่ปลดล็อคและเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กับเราทั่วทั้งองค์กร

"กลยุทธ์การเติบโตและการพลิกโฉมธุรกิจของ ADNOC ได้รับการสนับสนุนจากการสื่อสารและการตลาดที่มีความโปร่งใส เป็นไปในเชิงรุกและตามกลยุทธ์ที่วางไว้ ซึ่งนับว่ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการยกระดับธุรกิจ เพิ่มการสนับสนุนของเราต่อเศรษฐกิจยูเออี และขยายขอบเขตของผลกระทบเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซทั่วโลก

"การได้รับเกียรตินี้ถือเป็นรางวัลที่ควรค่า โดยเป็นการแสดงถึงการยอมรับในความทุ่มเททำงานอย่างหนักของพนักงานทุกคน ผู้ซึ่งพลิกโฉมบริษัท ในขณะที่เราก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงด้วยกลยุทธ์การเติบโตแบบครบวงจรภายในปี 2573 พร้อมเดินหน้าปลดล็อค ยกระดับ และสร้างมูลค่าจากทรัพยากรทั้งหมดของเรา" ดร. อัล จาเบอร์ กล่าว

นอกจาก ADNOC แล้ว อีกสองแบรนด์ของยูเออี ได้แก่ Etisalat และ Emirates ก็มีชื่ออยู่ในรายงาน Brand Finance Global 500 เช่นกัน โดยที่ Amazon รั้งอันดับสูงสุด ตามด้วยแบรนด์อันดับต้นๆ อย่างเช่น IBM, Shell, Mercedes-Benz, Samsung และ State Grid ของจีน ซึ่งถือเป็นแบรนด์ B2B ที่มีมูลค่าสูงสุดในเอเชีย

เดวิด เฮห์ ซีอีโอของ Brand Finance กล่าวว่า "ADNOC สามารถคว้าโอกาสที่เกิดขึ้นในตลาดเกิดใหม่ และนำโอกาสเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ มูลค่าของแบรนด์ ADNOC เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งการติดอันดับแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุด 500 อันดับแรกของโลกได้เป็นครั้งแรก รวมถึงการครองตำแหน่งแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดของตะวันออกกลาง ถือเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นที่ไม่หยุดยั้งของ ADNOC ในการที่จะก้าวขึ้นเป็นแบรนด์บริษัทน้ำมันแห่งชาติ (National Oil Company) เพื่ออนาคต ตลอดจนสะท้อนถึงบทบาทของ ADNOC ในการเร่งผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ การกระจายธุรกิจ การสร้างมูลค่าในประเทศ และการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเข้ามาสู่ยูเออี"

ตลอดระยะเวลาสองปีครึ่งที่ผ่านมา ADNOC ได้:

  • ควบรวมธุรกิจต่างๆ ของบริษัทให้อยู่ภายใต้แบรนด์เดียวกัน
  • เข้าสู่ตลาดทุนโลกเป็นครั้งแรกเปิดขายไอพีโอ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของธุรกิจในเครือ ADNOC
  • เปิดสัมปทานให้กับหุ้นส่วนธุรกิจรายใหม่ๆ
  • ยื่นแข่งประมูลแปลงสำรวจแห่งใหม่ๆ
  • เริ่มดำเนินการพลิกโฉมสู่ดิจิทัลอย่างครอบคลุม
  • ดำเนินมาตรการขั้นแรกในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ

ทั้งนี้ เป็นที่เข้าใจกันว่า มูลค่าแบรนด์คือผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจสุทธิที่เจ้าของแบรนด์จะได้จากการให้สิทธิ์ใช้ชื่อแบรนด์ในตลาดเปิด โดยความแข็งแกร่งของแบรนด์ได้รับการประเมินปัจจัยต่างๆ ตามเกณฑ์การให้คะแนนแบบสมดุล (Balanced Scorecard) ซึ่งประกอบด้วย การลงทุนด้านการตลาด ส่วนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และผลการดำเนินงานทางธุรกิจ นอกจากนี้ มูลค่าแบรนด์ยังถูกใช้เพื่อตัดสินว่า สัดส่วนรายได้ใดของธุรกิจที่แบรนด์นั้นมีส่วนสนับสนุน

Brand Finance เป็นองค์กรอิสระชั้นนำของโลกที่ให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์และการประเมินมูลค่าแบรนด์ของธุรกิจ Brand Finance จัดตั้งขึ้นในปี 2539 โดยมีสำนักงานใหญ่ในกรุงลอนดอน และมีสาขาในกว่า 20 ประเทศ ทุกปี Brand Finance จะทำการประเมินมูลค่าแบรนด์มากกว่า 3,500 แบรนด์ ซึ่งครอบคลุมทุกภาคส่วนและภูมิศาสตร์ โดยแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุด 500 อันดับแรกของโลกถูกรวมอยู่ในตารางคะแนน Brand Finance Global 500 ประจำปี 2562

เกี่ยวกับ ADNOC

ADNOC เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทพลังงานและปิโตรเคมีชั้นนำของโลกที่ดำเนินธุรกิจหลากหลายภาคส่วน โดยมีผลผลิตน้ำมันต่อวันประมาณ 3 ล้านบาร์เรล และก๊าซธรรมชาติ 10.5 พันล้านลูกบาศก์ฟุต ADNOC ดำเนินงานผ่านบริษัทเฉพาะทางที่อยู่ในเครือและบริษัทร่วมทุน 14 แห่ง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเร่งผลักดันการเติบโตและการกระจายการลงทุนของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.adnoc.ae

ที่มา: ADNOC

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit