ตอนนี้ไม่ได้เห็นพี่ในข่าวเลย พี่หายไปไหน?
เหลือเฟือ : ไม่ได้หายไปไหน ยังอยู่ในวงการบันเทิงนี่แหละ ยังเล่นละครอยู่ คือช่องมันจะเยอะคนไปดูช่องนู้น ช่องนี้ อาจจะไม่เห็นเรา มันเป็นช่วงชีวิตของใคร ของมัน ผมว่าคนก็ต้องเบื่อผมบ้างแหละ
ก็ยังทำงานเหมือนเดิม รายได้ที่มีก็เหมือนเดิม?
เหลือเฟือ : มันลดลงแน่นอนอยู่แล้ว มันไม่ใช่เฉพาะผม คนอื่นก็ลดเหมือนกัน แต่ว่าเราต้องอยู่ให้ได้
หลายคนก็บอกว่าที่หายไป เพราะตกอับหรือเปล่า?
เหลือเฟือ : คือผมไม่รู้ว่าคำว่าตกอับคืออะไร ผมก็อยู่แบบนี้ของผมอยู่แล้ว จะบอกว่าตกอับก็ได้ ผมไม่รู้ว่าคำว่าตกอับเป็นยังไง ถามว่าที่ผ่านมาลำบากไหม ก็ไม่นะ เพราะผมลำบากมาตั้งแต่เด็กแล้ว ตอนเด็กๆ เราเคยลำบากที่สุดมาแล้ว
ที่เชิญพี่เหลือเฟือมา อยากให้ชีวิตและเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตพี่เป็นอุทาหรณ์ให้กับหลายคน โดยเฉพาะเรื่อง ดูดบุหรี่ มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตพี่?
เหลือเฟือ : ผมมีเรื่องข่าวเยอะเลย ข่าวมันจะวิ่งเข้ามาหาผมเอง จริงๆ ผมไม่อยากเป็นข่าวอะไร อย่างประเด็นบุหรี่ ผมดูดบุหรี่มาตั้งแต่ม.1-ม.2 สมัยก่อนถ้ามียาบ้าผมว่าผมติด เมื่อก่อนไม่มียาบ้า อย่างมากก็ดมกาวกัน
แล้วพี่เริ่มสูบเพราะอะไร?
เหลือเฟือ : เริ่มจากการคบรุ่นพี่ มันดูเท่ แล้วบ้านผมอยู่ในตลาด เวลาเจอคนเดินดูดบุหรี่เรามองว่าพอโตขึ้นต้องทำแบบนั้น
ดูดหนักขนาดไหน?
เหลือเฟือ : ก็เวลานอนพี่ไม่สูบ มันเป็นนิสัย มือมันพาไป อย่างสมมุติไปเล่นตลกก่อนขึ้นเวทีก็ดูดๆ คือดูดต่อแม้กระทั่งของลูกน้องที่มันจะทิ้งผมก็เอามาดูดต่อ วันนึงผมนับอย่างต่ำต้องมี 2 ซอง
เดือนนึงพี่หมดเงินกับบุหรี่ไปเท่าไหร่?
เหลือเฟือ : เอางี้พี่เข้าร้านขายของอย่างต่ำต้องมี 500 บาท พี่ซื้อบุหรี่ 4-5 ซอง พี่ไม่เคยขอบุหรี่ใครดูด มีแต่คนอื่นมาขอ เพราะพี่มีติดตัวตลอด
พี่มีปัญหากับลูกเมียเพราะเรื่องกลิ่นบุหรี่มั้ย?
เหลือเฟือ : คือเขาไม่เคยพูดแต่เราสำนึกเอง คือผมดูดมาทั้งชีวิตแล้ว วันนึงผมคิดถึงลูกผม ครอบครัวผม ผมรู้สึกว่าผมเอาเปรียบเขา ผมก็เลยเลิก
สุขภาพแย่ลงมั้ย ช่วงนั้นพี่ผอมมาก?
เหลือเฟือ : ที่พี่ผอมเพราะพี่เลิกบุหรี่แบบไม่ถูกวิธี คือร่างกายผมไม่พร้อมที่จะหักดิบแล้วผมหักดิบเลิกบุหรี่พร้อมกับเลิกเหล้า
พี่เหลือเป็นคนรักลูกมาก?
เหลือเฟือ : รักมากิคนข้างๆ เราก็มีพูดบ้าง แต่บางครั้งเราอาจไม่ได้ยินเท่าไหร่ พี่คิดได้เองมากกว่า ก็เลยหักดิบเลย เลิกวันแรกก็เอาเว้ยได้วันนึงแล้ว พอวันที่2 เห็นคนดูดก็หันหน้าหนีไม่เอา คือมันอยากดูด จริงๆ อย่าคิดว่าร่างกายต้องมาอย่างเดียว ใจคุณต้องพร้อมด้วย พอผมเลิกได้แล้วมีคนถามผมเยอะมาก ผมก็บอกว่าถ้าคุณแยากเลิกเดี๋ยวมันก็เลิกได้เอง
พอพี่หักดิบเลิกบุหรี่พี่ก็โดนครหาว่าเป็น HIV?
เหลือเฟือ : พอพี่เลิกบุหรี่ร่างกายพี่ก็ผอมลง กินอะไรก็ไม่อร่อย ผอมขนาดนั่งพูดแบบนี้ไม่ได้เลย มันไอตลอด คนเลยเม้าท์พี่ แต่มันดีอย่างนึงคือเป็นการสแกนเพื่อน ด้วย ตอนนั้นจากน้ำหนัก 55 เหลือ 41 กิโล
แล้วช่วงนั้นครอบครัวซัพพอร์ตยังไง?
เหลือเฟือ : คือช่วงนั้นโชคดีละครหยุดถ่าย แล้วเราไม่รับงานอย่างอื่น เพราะเรารับสภาพตัวเองไม่ได้ แต่ผมบอกแม่ บอกลูกว่าไปงานต่างจังหวัด เพื่อไปหาลูกน้องเก่าที่ไม่ดูดบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า ก็ขับรถไปทั่วประเทศให้มันเพลิน
แล้วพี่ทำยังไงกับคนที่คิดว่าพี่เป็นเอดส์?
เหลือเฟือ : เราก็สแกนมันออก พี่พิสูจน์ตัวเองด้วยการไปหาหมอ ถามว่าก่อนไปหาหมอคิดมั้ยว่าตัวเองจะเป็น ก็มีเพราะตอนหนุ่มๆ เราก็เป็นนักบู้เหมือนกัน แต่เราก็บอกตัวเองว่าอย่าไปคิดมาก ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ตอนนั้นก็ขับรถไปคนเดียวเลย หมอถามว่าเป็นอะไร ผมก็บอกว่ามาตรวจร่างกาย หมอก็ถามว่าตรวจ HIV มั้ย ผมบอกว่าตรวจ คือรอผมแบบลุ้นมาก คิดไปในทางลบหมดเลย แต่ผลก็ออกมาว่าไม่เป็น และหมอแนะนำว่าถ้าไม่พร้อมอย่าหักดิบ
แล้วไปยังไง มายังไงทำไมลูกชายถึงโดนเบี้ยวค่าตัว?
เหลือเฟือ : พี่เป็นคนรับงาน น้องมิ๊กซ์เป็นคนทำเพลงออกมา แล้วมีคนติดต่อมาว่าวันเด็กอยากได้น้องมิ๊กซ์ไปเล่นแล้วถ้าได้พี่เหลือด้วยก็ดีนะ ก็ไปด้วยกันพอถึงวันเล่น หกโมงกำลังจะออกจากบ้าน เขาก็บอกว่าขอจ่ายเงินให้พรุ่งนี้ได้มั้ย เขาบอกต้องเก็บเงินจากโต๊ะจีนก่อน เราก็ไปเล่นเขาก็แฮปปี้ดี พอลงเวทีเขาก็บอกว่าพรุ่งนี้โอนให้ชัวร์ แต่พอเราทวงไปเขาก็เงียบ แต่เรารอบครอบ อัดคลิปทุกอย่างและไปแจ้งความเอาไว้แล้ว
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit