นายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่าการประกาศปรับปรุงอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ 19 สาขาอาชีพ จาก 83 สาขาอาชีพในครั้งนี้เปรียบเสมือนสิ่งจูงให้แรงงานมีการพัฒนาตนเองตั้งแต่การเข้าสู่ตลาดแรงงาน ด้านนายจ้างและสถานประกอบกิจการคัดเลือกบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ ทัศนคติที่ดีต่อการทำงาน เข้าปฏิบัติงานในองค์กร หรือเลื่อนตำแหน่งต่างๆ เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจของประเทศ การจะได้ค่าจ้างฯ ดังกล่าว จะต้องผ่านเกณฑ์การทดสอบกับกพร. ซึ่งแบ่งออกเป็นภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ประเมินจากการปฏิบัติงานหลายด้าน เช่น ความปลอดภัยในการทำงาน การใช้วัสดุอย่างประหยัด การใช้เครื่องมือเครื่องจักรอย่างถูกวิธี ใช้ระยะเวลาการปฏิบัติงานภายในเวลากำหนด ปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องตามขั้นตอน สุดท้ายคือผลสำเร็จของงานมีประสิทธิภาพผ่านเกณฑ์
นายสุทธิ กล่าวต่อไปว่า สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน (สพร.) และสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน (สนพ.) ทั้ง 77 แห่งเป็นศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน พร้อมอนุญาตให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา จัดตั้งเป็นศูนย์ทดสอบฯ อีกจำนวน 554 แห่ง ทั่วประเทศ อาทิ โรงเรียนวดไทยสปา สุรนารี วิทยาลัยสารพัดช่างจันทบุรี วิทยาลัยการอาชีพพนัสนิคม บริษัท เอ เอ็น ไอ โลจิสติกส์ จำกัด ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการจังหวัดขอนแก่น เป็นต้น ศูนย์ทดสอบฯ ที่ได้รับอนุญาตจะมีความพร้อมทั้งเครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดสอบฝีมือ มีคณะกรรมการที่อยู่ในการกำกับดูแลของกพร. ผู้ทำการประเมิน ซึ่งจะเพียงพอต่อการรับบริการทดสอบฯ ของพนักงานในสถานประกอบกิจการ ช่างฝีมือ นักศึกษาอาชีวะ และประชาชนทั่วไป ส่วนในบางสาขาอาชีพโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีชั้นสูง มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จัดการทดสอบฯ ในสถานประกอบกิจการที่มีเครื่องมือ เครื่องจักรที่ทันสมัย เมื่อผ่านการทดสอบแล้ว สามารถนำใบรับรองไปใช้ในการปรับอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานในสาขาที่มีประกาศอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือข้างต้นได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน 0 2245 4837, 0 2245 1707 ต่อ 718 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 ต่อ 4
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit