ดร. สมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ตลอดปี 2560 ที่ผ่านมา ธุรกิจโลจิสติกส์ในประเทศไทยเติบโตที่ร้อยละ 7.0 และมีแนวโน้มในการเติบโตต่อเนื่องทุกปี ในส่วนของแนวโน้มธุรกิจโลจิสติกส์ในปี 2561 มี 3 ปัจจัยคอยเกื้อหนุนให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง 1.เศรษฐกิจขยายตัว 2.การเบิกจ่ายภาครัฐ การเบิกจ่ายงบประมาณที่ภาครัฐบาลเร่งอนุมัติโครงการในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 3.การส่งออกขยายตัว ทั้ง 3 ปัจจัยนี้ทำให้ธุรกิจโลจิสติกส์ในประเทศไทย เติบโตได้อย่างดีท่ามกลางการแข่งขันอย่างเข้มข้นของผู้ประกอบการ ทั้งนี้ ภาพรวมของต้นทุนด้านโลจิสติกส์มีสัดส่วนต้นทุนของสินค้าคงคลังหรือคลังสินค้าและการจัดการ กว่า 50% หากผู้ประกอบการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ เข้ามาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมคลังสินค้า ก็จะทำให้ลดต้นทุนการบริการจัดการในส่วนนี้ สร้างกำไรที่มากยิ่งขึ้น และเชื่อมต่อความต้องการของผู้บริโภคได้ เป็นแนวทางสู่ยุคของไทยแลนด์ 4.0
ธุรกิจคลังสินค้าในปี 2561 น่าจะมีมูลค่า 75,500-76,000 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 5.3-7.0 จากปีที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่า 71,700 ล้านบาท เนื่องจากการขยายตัวของธุรกิจ E-Commerce นำมาซึ่งความต้องการคลังสินค้าที่เพิ่มมากขึ้น กล่าวคือ การปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการค้าออฟไลน์ แพลตฟอร์ม หรือรูปแบบร้านค้า/ห้างสรรพสินค้าปลีก มาเป็นออนไลน์ แพลตฟอร์ม ส่งผลให้เกิดคลังสินค้าอัจฉริยะ หรือ คลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าแบบใหม่ที่มีการออกแบบก่อสร้างให้เอื้อต่อการบริหารจัดการคลังสินค้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจร จะเห็นได้ว่าตลาดของคลังสินค้ากำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ความต้องการของนักลงทุนต่างประเทศ และนักลงทุนไทยเอง ควรจะหันมาสนใจเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ที่จะเข้ามาพัฒนา อัพเกรด คลังสินค้าของท่านให้ตอบสนองลูกค้าได้มากที่สุด รวมไปถึงการผลักดันต่างๆ ของภาครัฐที่ช่วยหนุน ถ้าหากภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันอย่างมั่นคง หวังว่าประเทศไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมต่างๆ รวมไปถึงศูนย์กลางของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของอาเซียน อีกด้วย
ทางด้าน นายภูษิต ศศิธรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซ์โปลิงค์ โกลบอล เน็ทเวอร์ค จำกัด ในฐานะผู้จัดงาน เปิดเผยว่า งาน Intelligent Warehouse Seminar 2018 จะจัดขึ้นในแถบของ EEC (ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษ ภาคตะออก) เพื่อสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการในพื้นที่ และจากส่วนกลางที่หันมาลงทุนในเขต EEC รวมไปถึงสร้างความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับ ระบบคลังสินค้าอัจฉริยะและระบบอัตโนมัติหุ่นยนต์ที่จะนำมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ทั้งนี้ยังเป็นศูนย์กลางให้ผู้ซื้อผู้ขาย ได้พบปะเจรจาธุรกิจภายในงาน สร้างเครือข่ายพันธมิตร โดยมีบริษัทชั้นนำ อาทิ Interroll (Thailand), Great Asia Corporation, Channakorn M&R Group, Kuehne + Nagel, Menam Mechanika, PEB Steel, SSI Schaefer, U-industrial และ Wall Tech
นอกจากงาน สัมมนาในปี 2018 แล้ว ทางผู้จัดงานฯ ยังจัดงานแสดงสินค้าเทคโนโลยีคลังสินค้า Intelligent Warehouse 2019 ขึ้นในปีหน้า โดยภายในงานจะได้พบกับผู้ประกอบการชั้นนำด้านคลังสินค้า ที่ยกขบวนเข้ามาโชว์นวัตกรรม เทคโนโลยี คลังสินค้า เพื่อยกระดับและพัฒนาคลังสินค้าของท่านก้าวเข้าสู่คลังสินค้า 4.0 อีกทั้งยังมีการโชว์สาธิต คลังสินค้าจำลองภายในงาน เพื่อผลักดันประเทศไทยก้าวสู่ศูนย์กลางการจัดแสดงนวัตกรรมคลังสินค้า และระบบจัดการแห่งอาเซียน
สำหรับงาน Intelligent Warehouse Seminar 2019 จะจัดขึ้นในวันที่ 24-27 กรกฎาคม 2562 ณ อิมแพ็ค ฮอลล์ 1 ศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร 02-640-8013 หรือทางอีเมลล์ [email protected]
HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit