นายศุภจักร ไตรรัตโนภาส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็นพีพีจี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ NPPG เปิดมุมมองถึงแผนการดำเนินธุรกิจ ภายใต้ " Next NPPG Transformation" ว่า หลังจากนี้ ต่อไป Business Plan ของ NPPG จะก้าวสู่การเป็นผู้นำในการให้บริการธุรกิจร้านอาหารไทย
โดยบริษัทฯได้ตั้งเป้าที่จะขยายอาณาจักรธุรกิจอาหารแบบครบวงจร ในประเทศจีน โดยล่าสุด NPPG ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ " Kinghill Food " เพื่อดำเนินธุรกิจร้านอาหารในประเทศจีน โดยทาง NPPG เป็นผู้จัดหาแบรนด์ร้านอาหารไทย อาหารทะเล และอาหารเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระดับชั้นนำไปเปิดให้บริการในประเทศจีน
สำหรับการบุกตลาดธุรกิจอาหาร ในประเทศจีนครั้งนี้ ของ NPPG ถือว่าเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ เป็นอย่างมาก เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรดังกล่าว เป็นบริษัทผู้นำด้านธุรกิจอาหารในประเทศจีน ประกอบกับยังเป็นผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ ใน การจัดส่งอาหารไปยังร้านอาหารต่างประเทศในประเทศจีนเกือบทั้งหมด และยังมีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง อาทิ China Cuisine Association และ China Hospitality Association ซึ่งเป็นผู้ประกอบการร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดของจีน ดังนั้นจึงมองว่าการขยายตลาดในครั้งนี้ จึงเป็นผลบวกกับ NPPG โดยเฉพาะความแข็งแกร่งของรายได้และภาพรวมทางธุรกิจ
ประธานกรรมการบริหาร NPPG กล่าวเพิ่มว่า สำหรับแผนขยายธุรกิจดังกล่าว ส่งผลให้ล่าสุด มีแบรนด์อาหารชั้นนำ สนใจเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ NPPG ในครั้งนี้คือ แหลมเจริญซีฟู้ด ซึ่งเป็นร้านอาหารทะเลที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่โดดเด่น ไม่ซ้ำใคร ทั้งรสชาติ คุณภาพ และการบริการ ได้สร้างความประทับใจให้ทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติมาแล้ว และนอกจากนี้ยังมีแบรนด์ร้านอาหารดังๆ ระดับชั้นนำอีกหลาย ที่สนใจเข้าร่วมเป็นพันธมิตร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา
ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่า ธุรกิจร้านอาหารในประเทศจีนจะสามารถเปิดให้บริการ แห่งแรกที่ เซี่ยงไฮ้ ภายในไตรมาส 4/2561 และคาดว่าจะทยอยเปิดสาขาเพิ่มที่ ปักกิ่ง เฉิงตู ฉงชิ่ง เซินเจิ้น ตามลำดับ ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า ประเทศจีนถือเป็นประเทศที่มีประชากรสูงถึง 1,400 ล้านคน และธุรกิจอาหารมีมูลค่าการตลาดและอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ย 20-30% ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคของประชากรจีน มีการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าว จะช่วยต่อยอดธุรกิจอาหาร และธุรกิจ Franchise model ในประเทศจีน ให้มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต นอกจากนี้บริษัทฯยังมีแผนขยายธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่มในไทยแบบเชิงรุกมากยิ่งขึ้น โดยเน้นการให้บริการที่หลากหลาย ล่าสุด
ทาง NPPG ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยในการให้บริการของ แบรนด์ DEAN & DELUCA ผู้ให้บริการด้านอาหาร ขนมและเครื่องดื่ม เป็นเวลา 10 ปี ซึ่งบริษัทมีแผนในการขยายสาขาเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยที่ผ่านมา DEAN & DELUCA มีการให้บริการผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มจากทั่วโลก ปัจจุบันมีสาขาอยู่ทั่วโลกทั้งใน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ประเทศไทย ดูไบ คูเวต ฟิลิปปินส์ และ สิงคโปร์
ประธานกรรมการบริหาร NPPG ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า จากแผนการพัฒนาแบบเชิงรุกในธุรกิจอาหารของ NPPG ในครั้งนี้ ทำให้เชื่อมั่นว่า ภายใน 2-3 ปีข้างหน้าธุรกิจอาหารของ NPPG จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 3-4 เท่าตัว จากปัจจุบันที่มีรายได้ 600-700 ล้านบาท เนื่องจากมีการขยาย Franchise model ไม่ต่ำกว่า 10 แบรนด์ โดยในแต่ละแบรนด์ มีแผนที่จะเปิดสาขาไม่น้อยกว่า 50 สาขาต่อแบรนด์ รวมถึงการเปิดสาขาของ MIYABI ซึ่งเป็นแบรนด์ร้านอาหารของ NPPG เอง ดังนั้นการร่วมมือกับ Kinghill Overseas Holding Limited ครั้งนี้จะยิ่งตอกย้ำการเปิดร้านอาหารที่จะทยอยเปิดได้ตั้งแต่ปลายปีนี้ได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit