โอเมก้า-3 ช่วยยืดอายุขัยทั้งทางตรงและทางอ้อม
"โอเมก้า-3" คือกรดไขมันไม่อิ่มตัว ที่ประกอบด้วยกรดไขมันหลัก 2 ตัว คือ "ดีเอชเอ" (DHA, Docosa-hexaenoic Acid) และ "อีพีเอ" (EPA, Eicosa-entaenoic Acid) ซึ่งนอกจากจำเป็นต่อแทบทุกระบบการทำงานภายในร่างกายของทั้งเด็กและผู้ใหญ่แล้ว กรดไขมันโอเมก้า-3 ยังมีส่วนช่วยต่อกลไกการยืดอายุขัยและชะลอความชรา ดังนี้
1. Anti-inflammatory หรือการต้านการอักเสบ
เมื่อคนเราอายุมากขึ้น ภูมิคุ้มกันของร่างกายเสื่อมถอยลง ทำให้เกิดภาวะอักเสบในเซลล์และอวัยวะต่างๆ และนำไปสู่การสิ้นอายุขัยของเซลล์ในที่สุด มีข้อมูลวิจัยยืนยันว่ากรดไขมันโอเมก้า-3 จากปลา ทั้งชนิด EPA และ DHA สามารถลดภาวะอักเสบในเซลล์ผ่านกลไกการเพิ่มสารต้านการอักเสบ (Anti-inflammation) ส่งผลให้ความชราภาพถูกชะลอให้ช้าลงได้
2. Good mind หรือการเติมอารมณ์เบิกบาน
กรดไขมันโอเมก้า-3 ได้รับฉายาว่าเป็น Happy fat หรือไขมันก่อสุข เนื่องจากกรดไขมันโอเมก้า-3 ทั้งชนิด EPA และ DHA จะเข้าไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์บางตัวที่ทำลายเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสารกึ่งฮอร์โมนที่สร้างขึ้นในสมอง ที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายสบายใจ การขาดสารเซโรโทนินเป็นสาเหตุที่ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้าและโรคทางสมองอื่นๆ ซึ่งเมื่อร่างกายได้รับกรดไขมันโอเมก้า-3 ในปริมาณที่เพียงพอก็จะช่วยให้ลดภาวะซึมเศร้า อารมณ์ดี และทำให้ความชราภาพเกิดขึ้นน้อยลง
3. Elongated Telomere หรือการต่ออายุขัยให้เทโลเมียร์
เทโลเมียร์คือดีเอ็นเอที่อยู่ส่วนปลายสุดของโครโมโซมแต่ละแท่ง ทุกครั้งที่เซลล์แบ่งตัว เทโลเมียร์จะสั้นลง เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น เทโลเมียร์ที่ผ่านการแบ่งตัวหลายครั้งจะสั้นลงจนไม่สามารถแบ่งตัวได้อีก ส่งผลให้อายุขัยจบสิ้นลง ซึ่งกรดไขมันโอเมก้า-3 มีส่วนช่วยในการออกฤทธิ์ชะลอการหดสั้นลงของเทโลเมียร์ได้
น้ำมันปลา ขุมทรัพย์ของโอเมก้า-3
หลังจากที่ทราบประโยชน์ในการช่วยชะลอวัยของโอเมก้า-3 กันไปแล้ว แล้วเราจะได้โอเมก้า-3 มาจากไหน? และเนื่องจากร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์กรดไขมันโอเมก้า-3 ขึ้นเองได้ ต้องรับจากอาหารที่บริโภคเข้าไปเท่านั้น ดังนั้น แหล่งที่มาสำคัญของไขมันชนิดนี้จึงได้จากปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาแม็คเคอเรล ปลาทูน่า หรือปลาน้ำจืดบางชนิด แต่คนส่วนใหญ่กลับไม่ได้รับประทานปลาบ่อยเท่าที่ควร อีกทั้งปลาบางชนิดอาจมีสารตะกั่ว แคดเมียม ปรอทสะสม
น้ำมันปลาที่สกัดมาจากส่วนต่างๆ ยกเว้นตับของปลาทะเล จึงเป็นอีกตัวเลือกของการได้รับโอเมก้า-3 ที่นอกจากจะทำให้เราได้รับคุณประโยชน์ทางโภชนาการอย่างเต็มที่แล้ว ยังสะดวก รับประทานง่าย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย แต่ต้องเลือกน้ำมันปลาที่มีกรรมวิธีในการผลิตที่ได้มาตรฐาน สะอาด และปลอดภัย มิเช่นนั้นร่างกายก็ยังมีความเสี่ยงที่จะได้รับสารปรอทเช่นเดียวกับการบริโภคเนื้อปลาโดยตรง
อย่างไรก็ตาม เราควรรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า-3 ในปริมาณที่เหมาะสมกับเพศและช่วงวัย และรับประทานอาหารเสริมโอเมก้า-3 ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ประโยชน์และปลอดภัยต่อสุขภาพ เริ่มต้นดูแลตัวเองได้ตั้งแต่วันนี้ และอย่าลืมส่งต่อเคล็ดลับสุขภาพนี้ให้กับคุณแม่สุดที่รักของเราเนื่องในโอกาสวันแม่ที่กำลังจะมาถึง รับรองคุณแม่ต้องแฮปปี้แน่ เพราะไม่มีของขวัญอะไรที่จะทำให้แม่ดีใจมากกว่าการมีสุขภาพแข็งแรงอยู่กับลูกหลานไปนานๆ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit