หลังจากที่ดำเนินการไป 2 เส้นทาง คือ โครงการ 1 ไร่แก้จน ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน มณฑลทหารบกที่ 16 จ.ราชบุรี–ชุมชนบ้านศาลาดิน จ.นครปฐม และ โครงการปรับปรุงอ่างเก็บน้ำต้นลำปะเทีย-ชุมชนบ้านโคกเมือง จ.บุรีรัมย์ ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากคณะฑูตที่ลงพื้นที่เป็นอย่างดี สนใจในศิลปะ-วัฒนธรรมท้องถิ่น จนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ดีใจที่ได้มีโอกาสเห็นและสัมผัสกับโครงการต่างๆ ของพระราชา ทำให้ได้เรียนรู้ศิลปะ-วัฒนธรรมของเมืองไทยอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น และการที่ได้ลงมือสัมผัสและเรียนรู้ด้วยตนเอง ทำให้กิจกรรมน่าสนใจและมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น
ด้าน นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากโครงการ "ตามรอยศาสตร์พระราชา เพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน" ในปีที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จและได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงได้มีแนวคิดในการต่อยอดศาสตร์แห่งองค์ราชา "ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง" สู่สากล เพื่อเผยแพร่ศาสตร์ของพระราชา และการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น จนต่อยอดมาเป็น "โครงการ "แหล่งท่องเที่ยวตามรอยศาสตร์พระราชา สู่การเชื่อมโยงแอ่งท่องเที่ยว" โดยผ่านไป 2 เส้นทาง ปรากฏว่า ได้รับความสนใจจากคณะฑูตที่ร่วมลงพื้นที่ในแต่ละเส้นทางเป็นอย่างดี แต่ละท่านให้ความสนใจในการเรียนรู้ศิลปะ-วัฒนธรรม และลงมือทดลองทำด้วยตัวเอง ซึ่งเชื่อว่า จะทำให้เกิดการเผยแพร่สิ่งเหล่านี้ออกไปให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้รับรู้เพิ่มขึ้น มีส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากยิ่งขึ้น
นายวิศรุต อินแย้ม ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกาญจนบุรี กล่าวว่า "โครงการ "แหล่งท่องเที่ยวตามรอยศาสตร์พระราชา สู่การเชื่อมโยงแอ่งท่องเที่ยว" เป็นโครงการต่อยอดศาสตร์แห่งองค์ราชา "ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง" สู่สากล เพื่อเผยแพร่ศาสตร์ของพระราชา ในการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่คาดว่าจะสามารถกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวตามรอยศาสตร์พระราชา และการเชื่อมโยงแอ่งท่องเที่ยว ด้วยกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ได้ผสานวิถีชุมชนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง เป็นการสร้างความเข้มแข็งสู่เมืองรองในแอ่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ รวมถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจของคุณูปการของศาสตร์พระราชา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ให้เป็นที่ประจักษ์ในระดับนานาชาติ"
โดยเส้นทางท่องเที่ยวทั้ง 5 เส้นทาง ที่คณะทูตจะได้ลงพื้นที่นั้น อยู่ระหว่างเดือนสิงหาคม-เดือนกันยายน โดยอีก 3 เส้นทาง คือ โครงการศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ-ชุมชนปากน้ำประแส จ.ระยอง, โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง-ชุมชนบ้านแหลม จ.นครศรีธรรมราช และโครงการเกษตรวิชญา-ชุมชนบ้านไร่กองขิง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมโยงทั้งทางด้านพื้นที่ และการเชื่อมโยงด้านการน้อมนำศาสตร์พระราชามาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้จริง และจะมีการดำเนินการประชาสัมพันธ์ผ่านกิจกรรมออนไลน์ต่างๆ สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถร่วมติดตาม และเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการได้ที่เว็บไซต์ www.tourismthailand.org/kingwisdom
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit