นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนธนชาต จำกัดเปิดเผยว่า สถานการณ์ลงทุนในปัจจุบันมีความผันผวนค่อนข้างสูง ตลาดตราสารหนี้มีแนวโน้มได้รับผลตอบแทนลดลง ส่วนตลาดตราสารทุน แม้ว่าในอเมริกาจะทำผลตอบแทนได้น่าสนใจ แต่จะเห็นได้ว่าในตลาดอื่นๆกลับทำผลงานได้ไม่น่าสนใจนักในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้นการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ อย่างกองทุนอสังหาริมทรัพย์เริ่มกลับมาอยู่ในความสนใจมากขึ้น เพราะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าลงทุนในตราสารหนี้ แต่ก็ไม่ผันผวนเท่ากับการลงทุนในตราสารทุน โดยปัจจุบัน บลจ.ธนชาตมีกองทุนที่ลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์อยู่ 4 กองทุน โดยมีกองทุนที่เน้นลงทุนกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในเอเชีย นั่นก็คือ กองทุน T-AsianProp ที่ลงทุนในกองทุน B&I Asian Real Estate Securities Fund ของ บริษัท B&I Capitalซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่จัดตั้งกองทุนประมาณเกือบ 2 ปี ก็สามารถจ่ายปันผลให้กับผู้ลงทุนไปแล้ว ถึง 3 ครั้ง ในเดือน มิ.ย. 60, ธ.ค. 60 และมิ.ย. 61 ครั้งละ 0.25 บาท(บลจ.ธนชาต, 3 ส.ค. 61) นับว่าเป็นกองทุนที่น่าสนใจกองทุนหนึ่ง
ล่าสุด บลจ.ธนชาต ได้จัดงานสัมมนาเกี่ยวกับกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในเอเชีย โดยได้รับเกียรติจากMr.Christian Bernasconi, Fund Manager and Partner จาก B&I Capital AG. ซึ่งเป็นผู้บริหารกองทุน T-AsianProp ของ บลจ.ธนชาต มาอัพเดตกลยุทธ์การลงทุนในกองทุนดังกล่าวซึ่งทาง B&I ให้มุมมองว่า อสังหาริมทรัพย์ในเอเชียยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยสำคัญ 2 ปัจจัย คือ ผลกระทบจากสงครามการค้า และการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยของเฟดซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ามีผลกระทบอยู่บ้างจะเห็นได้จากผลตอบแทนในปีนี้ที่ติดลบอยู่ในบางช่วง แต่ถือว่ายังมีความผันผวนน้อยกว่าลงทุนในหุ้นทั่วไป และน่าสนใจกว่าลงทุนในตลาดตราสารหนี้
นอกจากนั้น ทาง B&I ยังมีความเห็นว่าอสังหาฯ ในเอเชียมีปัจจัยบวกที่น่าสนใจอยู่ 2 ประเด็น คือ
1. ในญี่ปุ่นและฮ่องกง ยังมีโอกาสสร้างรายได้จากค่าเช่าได้ดีเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นเห็นได้จากความต้องการเช่าพื้นที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ผู้ปล่อยเช่ากลับลดน้อยลง ทำให้ค่าเช่ามีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้นได้และกองทุน B&I ที่ T-AsianProp ลงทุนอยู่ ก็มีสัดส่วนการลงทุนในญี่ปุ่นสูงที่สุดอีกด้วย
2. อสังหาริมทรัพย์ในเอเชีย ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนน้อย เนื่องจาก REITs เป็นการลงทุนแบบ Defensive และมีความเกี่ยวข้องกับปัจจัยภายในประเทศมากกว่าต่างประเทศ จึงยังคงไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้
ผู้จัดการกองทุนต่างประเทศให้ความเห็นเพิ่มเติมถึงความน่าสนใจของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในเอเชีย ว่ามีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนได้ใน 2 รูปแบบ คือ นอกเหนือจากรายได้จากผลตอบแทนจากผลการดำเนินงานของกองทุนแล้ว ผู้ลงทุนยังได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของเงินปันผลด้วย โดยล่าสุด ณ สิ้นมิ.ย.2561อัตราเงินปันผลจากพอร์ตของกองทุน B&I อยู่ที่ 4.7% (B&I, มิ.ย.61) ซึ่งถือว่ามีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ทางด้านผู้จัดการกองทุนของ บลจ.ธนชาต ยังร่วมให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ตลาดตราสารทุนและตราสารหนี้เองต่างมีความผันผวนมากขึ้น ซึ่งคาดว่ามาจากเศรษฐกิจโลกที่เริ่มชะลอตัวลง ทั้งจากปัจจัยลบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความกังวลต่อสงครามการค้า และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้นแต่ก็ยังเชื่อว่าการลงทุนในอสังหาฯ เอเชียยังน่าสนใจ เพราะอัตราผลตอบแทนโดยรวมน่าจะยังกลับมาเป็นบวกในปีนี้ได้พร้อมยังเห็นว่าการลงทุนอสังหาฯจะสามารถตอบโจทย์การลงทุนในภาวะนี้ได้ดี นอกจากนี้ ผู้จัดการกองทุนของ B&I ยังกล่าวเสริมด้วยว่า กองทุนนี้ผู้จัดการกองทุนมีกลยุทธ์เน้นคัดเลือกหลักทรัพย์รายตัวที่น่าสนใจ ที่มีโอกาสในการสร้างรายได้ และปรับพอร์ตอยู่อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้กองทุน T-AsianProp ของ บลจ.ธนชาตมีผลการดำเนินงานตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 6.54% ต่อปี และ ปี 2560 อยู่ที่ 11.11% เมื่อเทียบกับดัชนีมาตรฐานอยู่ที่ 4.67% ต่อปี และ 5.85% ตามลำดับ (บลจ.ธนชาต, 3 ส.ค. 61) โดยกองทุนหลัก B&I Asian Real Estate Securities Fund มีจุดเด่นคือผู้จัดการกองทุนมีความเชี่ยวชาญในด้านอสังหาริมทรัพย์และการเลือกลงทุนในหลักทรัพย์รายตัว ซึ่งทีมผู้จัดการกองทุนให้ความสนใจกับโอกาสและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะสามารถสร้างการเติบโตของผลตอบแทนได้มากยิ่งขึ้น และจากขนาดของกองทุนในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ากองทุนก็มีขนาดเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นความน่าสนใจของกองทุนนี้ และเหมาะจะทยอยสะสมในระยะนี้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมขอรับหนังสือชี้ชวนได้ในวันและเวลาทำการเสนอขายที่ บลจ.ธนชาต โทรศัพท์ 0-2126-8399 กด 0 หรือ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) โทร.1770 หรือผู้สนับสนุนการขาย หรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนที่ บลจ.ธนชาต แต่งตั้ง www.thanachartfund.com
คำเตือน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit