ปิดฉากยิ่งใหญ่ HYBRID SUMMIT 2018 ยกระดับไทยเป็นศูนย์กลางบล็อกเชนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

14 Aug 2018
หลังจากการประสบความสำเร็จในการจัดงานครั้งแรกที่มาเก๊า HYBRID SUMMIT 2018 เลือกกรุงเทพมหานครเป็นจุดหมายของการจัดงาน ครั้งที่ 2 ซึ่งผ่านพ้นไปเมื่อเร็วๆนี้ ณ เซ็นทาราแกรนด์และศูนย์การประชุมบางกอกคอนเวนต์ชัน เป็นการรวมพลบุคลากรชั้นแนวหน้าของวงการบล็อกเชนจากทุกภูมิภาคทั่วโลก มีผู้ร่วมงานมากกว่ากว่า 2,000 คน จาก 30 กว่าประเทศ
ปิดฉากยิ่งใหญ่ HYBRID SUMMIT 2018 ยกระดับไทยเป็นศูนย์กลางบล็อกเชนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Hybrid Summit 2018 เป็นเวทีในการนำเสนอข้อมูลคุณภาพ และความรู้จากผู้นำในอุตสาหกรรมบล็อกเชน สกุลเงินดิจิทัล ไปจนถึงประสบการณ์การเรียนรู้ที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้ผู้ร่วมประชุมสามารถต่อยอดสร้างเครือข่ายในคอมมูนิตี้ของตนเองได้ ทั้งยังสามารถชักชวนผู้ที่ชื่นชอบ และสนใจคริปโตเคอร์เรนซี่มาเป็นส่วนหนึ่งของคอมมูนิตี้และร่วมเรียนรู้ไปพร้อมกันด้วย

"ในงานนี้เป็นการรวมตัวของคนสำคัญๆ ที่บุกเบิกการประยุกต์ใช้บล็อกเชน เพื่อนำเสนอนวัตกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในรอบปีที่ผ่านมา ทั้งยังได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ร่วมลงทุน ตัวแทนสถาบันต่างๆ ตลอดจนธุรกิจที่สนใจนำเทคโนโลยีบล็อกเชนไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจ

เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการเป็นพื้นที่ให้วิทยากรและนักการศึกษาระดับนานาชาติหลายท่านได้พบปะ และแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ในการประชุมสุดยอด Hybrid Summit 2018 ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเหมือนศูนย์กลางของเทคโนโลยีด้านการเงิน (Fintech) ที่กำลังเติบโตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยิ่งไปกว่านั้น เรายังได้ทำงานร่วมกับชุมชนคริปโตฯมากมาย และช่วยให้พวกเขาเข้าถึงผู้รู้ที่มีความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง ที่จะพร้อมจะแบ่งปันความรู้ สร้างความเข้าใจในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล และระบบบล็อกเชน"

จากความสำเร็จของงานในปีแรกที่มาเก๊า สู่ความสำเร็จอีกครั้งที่กรุงเทพฯ เราหวังให้เมืองไทยกลายเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมบล็อกเชนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และหลังจากงานนี้สิ้นสุดลง เราก็พบว่าเป็นไปได้ไม่ยากเลย เพราะบรรดาคนในแวดวงธุรกิจต่างๆ ล้วนให้ความสนใจศึกษาเทคโนโลยีนี้อย่างจริงจัง พร้อมหาวิธีประยุกต์ใช้เข้ากับธุรกิจ ตลอดจนมีผู้ประกอบการรุ่นใหม่ไฟแรงที่เข้าสู่โลกของบล็อกเชนอยู่จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว" อะพอลโล โอโน ผู้ก่อตั้งบริษัทไฮบริดบล็อก ในฐานะผู้จัดงาน HYBRID SUMMIT 2018 กล่าว

ด้านผู้ประกอบการไทย นายศิวนัส ยามดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท คอยน์ แอสเซท จำกัด (Coin Asset) ผู้ดำเนินธุรกิจศูนย์กลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล ที่เลือกเผยโฉมเอทีเอ็มเงินดิจิทัลตู้แรกของเมืองไทย ในงานนี้ กล่าวว่า "การเลือกเปิดตัวคริปโตเอทีเอ็ม ในงานนี้ เนื่องจากเราเห็นว่าเป็นงานที่รวมคนในวงการบล็อกเชนจากทั่วโลกมาร่วมกัน การนำเสนอในครั้งนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะบอกว่าประเทศเรามีบุคลากรที่มีศักยภาพ พร้อมต้อนรับธุรกิจและลงทุนที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนจากทุกภูมิภาค ทางคอยน์ แอสเซท ภูมิใจที่การมาร่วมงานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยยกระดับวงการบล็อกเชนของไทย"

สำหรับ 'Crypto ATM' สามารถแลกเปลี่ยนซื้อขายเงินสกุล BitCoin (BTC), Ether (ETH), LiteCoin (LTC) และ Bitcoin Cash (BCH) โดยต่อไปจะเพิ่มสกุลเงินที่ใช้แลกเปลี่ยนขึ้นเรื่อยๆ ตามความนิยมของผู้ใช้งาน ตู้ Crypto ATM ของคอยน์ แอสเซท นั้น ยังสามารถทำธุรกรรม ซื้อขายเงินดิจิทัลได้ ในมูลค่าเริ่มต้นเพียง 100 บาท เท่านั้นโดยการซื้อขายสามารถทำผ่านตู้ได้ทันที

ที่สำคัญ Crypto ATM นี้ยังสามารถถอนเงินดิจิทัล ออกมาในรูปแบบเงินบาทได้ด้วย หน้าจอของตู้เป็นระบบจอสัมผัส (Touch Screen) ซึ่งระบบของตู้มีความแม่นยำและความเสถียรในการใช้งานสูง‎ เมื่อทำธุรกรรมเรียบร้อยแล้วจะได้รับสลิป เพื่อเป็นการยืนยันการทำธุรกรรมอีกด้วย

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://hybridsummit2018.com https://coinasset.co.th/

HTML::image( HTML::image( HTML::image(