นายสิทธิรัตน์ วัชราภรณ์ ผู้จัดการทั่วไป ลิกซิล วอเตอร์ เทคโนโลยี ประเทศไทย กล่าวว่า "จุดประสงค์ของการจัดงาน "ลิกซิล สปาเลต ไอคอนนิค ทัวร์ 2018" คือแนะนำกลุ่มผลิตภัณฑ์สปาเลต และเพื่อสร้างรากฐานของวัฒนธรรมสปาเลตให้เติบโตในเอเชีย กลุ่มผลิตภัณฑ์สปาเลตคือกลุ่มผลิตภัณฑ์ได้รับการออกแบบและมีฟังก์ชั่นการใช้งานของสุขภัณฑ์อัตโนมัติ เสมือนมีสปาสุดหรูอยู่ในบ้าน เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นการได้รับความสะดวกสบายและง่ายต่อการใช้สอยที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัย ช่วยให้มีสุขอนามัยที่ดีขึ้น โดยเราตั้งใจว่าจะมุ่งเสริมความแข็งแกร่งของวัฒนธรรมสปาเลตและตำแหน่งทางการตลาดผ่านกลยุทธ์ของสามแบรนด์ นั่นก็คือ INAX GROHE และ American Standard ซึ่งเราไม่เพียงแต่มุ่งพัฒนาเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงสปาเลตได้เท่านั้น แต่เรายังเน้นการยกระดับวิถีการอาบน้ำในแต่ละวันไปสู่การดูแลตัวเองอย่างถึงที่สุด พร้อมๆ กับการยกระดับห้องน้ำให้ดียิ่งขึ้น จากฟังก์ชั่นการใช้งานไปสู่ความสะดวกสบายระดับใหม่ ซึ่งจะเปลี่ยนให้ห้องน้ำกลายเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่แฝงด้วยความเป็นส่วนตัวและอารมณ์ความรู้สึก
ซึ่ง "ลิกซิล สปาเลต ไอคอนนิค ทัวร์ 2018" มอบประสบการณ์รอบด้านของสปาเลตให้แก่สถาปนิกและนักออกแบบชื่อดังของเอเชีย สปาเลต และยังสามารถถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ของโลกได้อีกมากมาย ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและผู้บริโภคมีความชาญฉลาดในการเลือกสรรมากขึ้นนั้น สปาเลตให้คำยืนยันว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะมาช่วยอัพเกรดชีวิตของคุณ และท้ายที่สุดจะทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้น" นายสิทธิรัตน์ สรุป
ในงาน "ลิกซิล สปาเลต ไอคอนนิค ทัวร์ 2018" ลิกซิลยังได้จัดให้มีการประกวดการออกแบบ "ดรีม สปาเลต เดสติเนชั่น คอมเพทิชั่น 2018" เพื่อช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับสถาปนิกและนักออกแบบ เหมือนกับที่สปาเลตมอบความเป็นไปได้อย่างไรขีดจำกัดสำหรับโปรเจคต่างๆ ของพวกเขา โดยนักออกแบบชาวไทยคือนาย ธนวัฒน์ สุขัคคานนท์ จากบริษัท อินทีเรียวิชั่น จำกัด ได้สร้างปรากฎการณ์คว้ารางวัลชนะเลิศจากการออกแบบสปาและออนเซ็นของโรงแรมรวมไปถึงห้องน้ำทั้งในห้องพักและห้องสวีทของโรงแรม แกรนด์ เซ็นเตอร์พอยด์ สุขุมวิท 55 กรุงเทพฯ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นโรงแรมออนเซ็นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยได้ใช้ผลิตภัณฑ์ Eurozen จากแบรนด์ American Standard ซึ่งเป็น สุขภัณฑ์อัจฉริยะรุ่น Eurozen ที่มีคุณสมบัติเหมือนสปาให้ความสบายสูงสุดกับสุขอนามัยส่วนบุคคล อีกทั้งยังช่วยประหยัดน้ำและลดการใช้กระดาษทิชชู่ด้วย
ซึ่งไฮไลท์ของ LIXIL SPALET ICONIC TOUR นั้นอยู่ที่การที่เหล่าสถาปนิกและนักออกแบบที่ได้รับเชิญสามารถรับประสบการณ์ทั้งด้านการมองเห็นและผ่านโสตประสาทอื่นๆ อย่างเต็มที่ จากการเข้าชม LIXIL SHOWROOM ที่ๆ จะได้ชื่นชมความกว้างใหญ่และความลึกของผลิตภัณฑ์ของกลุ่มลิกซิล รวมถึงพิพิธภัณฑ์ INAX ที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ที่สำคัญของINAX ที่เกี่ยวข้องกับเซรามิคต่างๆ รวมถึงการจัดแสดงประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนานกว่า 50 ปีของสายชำระ ท่ามกลางนวัตกรรมทางเทคโนโลยีมากมายของ INAX โดยมีสายชำระชิ้นแรกของ INAX ถูกจัดแสดงอยู่ด้วยและแน่นอนว่ามันยังใช้งานได้จนถึงปัจจุบัน
ลิกซิลพร้อมที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์สปาเลตให้ทุกท่านทั่วโลกได้รับประสบการณ์อย่างใกล้ชิดแล้ววันนี้ โดยผู้สนใจสามารถติดตามข่าวได้ที่ www.ilovespalet..com
เกี่ยวกับ ลิกซิล
LIXIL เป็นบริษัทผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ด้านน้ำและบ้านที่ช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ในชีวิตประจำวันของทุกคน สร้างสรรค์บ้านที่ดียิ่งขึ้นให้กับทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ด้วยประวัติศาสตร์ความเป็นญี่ปุ่นของเรา เราได้พัฒนาเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพที่เปลี่ยนแปลงบ้านมากมาย อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างของ LIXIL อยู่ที่การทำให้นวัตกรรมต่างๆ เกิดขึ้น ผ่านการออกแบบที่มีความหมาย ความรู้สึกของการเป็นผู้ประกอบการ ความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ให้กับทุกคน รวมถึงการเติบโตทางธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งวิธีการของเราได้รับการถ่ายทอดผ่านแบรนด์ชั้นนำของอุตสาหกรรม อาทิ INAX, GROHE, American Standard และ TOSTEM นอกจากนี้ พนักงานกว่า70,000 รายใน 150 กว่าประเทศทั่วโลกภูมิใจที่ได้สรรสร้างผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่สัมผัสชีวิตคนมากกว่าพันล้านคนทั่วโลกในทุกๆ วัน
LIXIL Group Corporation (TSE Code: 5938) เป็นบริษัทโฮลดิ้งที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสำหรับธรุกิจต่างๆ ของ LIXIL
เกี่ยวกับ INAX
INAX ซึ่งมีชื่อเดิมว่า Ina Seito เริ่มต้นธุรกิจเครื่องสุขภัณฑ์ตั้งแต่ปี 1945 ซึ่งเน้นการผลิตอ่างล้างมือและห้องน้ำในญี่ปุ่น นับแต่นั้นมา บริษัทกลายเป็นผู้นำการพัฒนาพื้นที่ห้องน้ำสไตล์ญี่ปุ่น ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและงานฝีมือชั้นเลิศที่ได้รับการพัฒนามาตลอดหลายปี INAX ยังสร้างชื่อเสียงด้วยคุณภาพและการออกแบบของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ควบคู่ไปกับการพัฒนาวัสดุ เทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับชีวิตของผู้คน
เกี่ยวกับ GROHE
GROHE เป็นบริษัทสุขภัณฑ์ห้องน้ำชั้นนำระดับโลก และมีพนักงานมากกว่า 6,000 ราย ซึ่งมี 2,400 คนอยู่ที่เยอรมัน GROHE เป็นส่วนหนึ่งของ LIXIL Group Corporation ตั้งแต่ปี 2014ด้วยความเป็นแบรนด์ระดับโลก GROHE มุ่งสร้างคุณค่าของแบรนด์ผ่านเทคโนโลยี คุณภาพ การออกแบบ และความยั่งยืน เพื่อมอบ "ความสุขที่แท้จริงของน้ำ" ให้แก่ผู้บริโภค GROHEยังมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมายตั้งแต่ก่อตั้ง ซึ่งรวมถึงระบบน้ำ GROHE Blue, GROHE Red และระบบความปลอดภัยของน้ำ GROHE Sense ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานนี้ นับเป็นนวัตกรรมสำหรับตลาดเทคโนโลยีอัจฉริยะสำหรับบ้านที่กำลังมีอัตราเติบโตสูง ทั้งยังถูกประกอบที่ประเทศเยอรมัน ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ GROHE ได้รับตราแห่งคุณภาพ "Made in Germany" และในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา รางวัลด้านการออกแบบและนวัตกรรมมากกว่า 300 รายการ รวมถึงการเป็นอันดับต้นๆ ในรางวัลด้านความยั่งยืนของเยอรมันนับเป็นเครื่องตอกย้ำความสำเร็จแห่งแบรนด์ GROHE นอกจากนี้ GROHE ยังเป็นบริษัทแรกในอุตสาหกรรมที่ชนะรางวัล CSR ของรัฐบาลเยอรมันและได้รับการตีพิมพ์ในการจัดอันดับนิตยสารFortune Top 50 ที่มีชื่อเสียงให้เป็น "บริษัทเปลี่ยนโลก"
เกี่ยวกับ American Standard
ในฐานะแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ที่สุดแบรนด์หนึ่งในบรรดาสุขภัณฑ์ American Standard ได้รับความเชื่อใจจากลูกค้าจากการส่งมอบสไตล์ คุณภาพ และความเชื่อถือได้ สู่ห้องน้ำมากมาย วันนี้ ด้วยประวัติการริเริ่มกว่า 140 ปี American Standard ยังคงยกระดับด้านคุณภาพอย่างต่อเนื่องด้วยการส่งมอบโซลูชั่นส์ห้องน้ำที่ไว้ใจได้เสมอ ซึ่งผสานด้วยการออกแบบที่ลึกซึ้งและนวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆ ที่ช่วยสร้างห้องน้ำที่สงบสุข ที่มอบทั้งที่สุดแห่งความสะดวกสบายและคุณภาพให้แก่ลูกค้า
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit