นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การเติบโตของธุรกิจแฟรนไชส์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีอัตราเติบโตสูง ทั้งในฝั่งเจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์หรือแฟรนไชส์ซอร์ (Franchisor) และผู้ซื้อสิทธิ์แฟรนไชส์หรือแฟรนไชส์ซี่ (Franchisee) โดยในปี 2560 มูลค่าตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์อยู่ที่ประมาณกว่า 200,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 10-15% ในปี 2561 แฟรนไชส์อาหารมีสัดส่วนมากที่สุดประมาณร้อยละ 22.9 รองลงมาคือกลุ่มเครื่องดื่มและไอศกรีมคิดเป็น 21.9% โดยในจำนวนนี้เป็นแฟรนไชส์ธุรกิจกาแฟสดประมาณ 21.6% ของจำนวนธุรกิจในกลุ่มเครื่องดื่มและไอศกรีม ในปัจจุบันธุรกิจแฟรนไชส์ทั้งตลาดมีมากกว่า 1 แสนสาขาทั่วประเทศและยังคงมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยพิจารณาได้จากผู้สนใจขอรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับแฟรนไซส์ ที่มีถึงกว่า 15,000-20,000 รายต่อปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผู้ที่สนใจเข้าสู่ธุรกิจนี้
ธนาคารกสิกรไทย จึงร่วมกับบริษัท ซีพี รีเทลลิงค์ จำกัด สนับสนุนสินเชื่อเพื่อธุรกิจแฟรนไชส์ร้านกาแฟมวลชน เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีธุรกิจเป็นของตนเอง โดยธนาคารสนับสนุนสินเชื่อสำหรับเปิดร้านกาแฟมวลชน ให้วงเงินสินเชื่อ 100% ของมูลค่าการลงทุน ดอกเบี้ยต่ำ ไม่ต้องมีหลักประกัน และไม่ต้องมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจ พร้อมบริการจัดการด้านการเงินที่จะอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ ด้วยบริการเครื่องรูดบัตร (EDC) หรือบริการ K PLUS SHOP เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการถือเงินสด โดยธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อแฟรนไชส์ร้านกาแฟมวลชน 210 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้
ด้าน ดร.นริศ ธรรมเกื้อกูล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี รีเทลลิงค์ จำกัด กล่าวว่า ร้านกาแฟมวลชน "กาแฟสร้างอาชีพเพื่อสังคมและชุมชน" แต่เดิมเราดำเนินธุรกิจร้านกาแฟมาพร้อมกับการสร้างอาชีพผู้ประกอบการร้านกาแฟผ่านโครงการอบรมกาแฟสร้างอาชีพเพื่อสังคมและชุมชนมาตั้งแต่ปี2553 จนถึงปัจจุบันเข้าสู่ปีที่ 8 อบรมไปแล้ว 84 รุ่น ผู้เข้าอบรมกว่า 8,700 คน เน้นการให้ความรู้พื้นฐานการทำธุรกิจร้านกาแฟให้ยั่งยืน ตั้งแต่การพิจารณาทำเลที่ตั้ง การสำรวจตลาด การเก็บข้อมูลของลูกค้า รวมถึงด้านปฏิบัติการใช้เครื่องชงกาแฟ สอนทำกาแฟจริงด้วยสูตรร้านกาแฟมวลชน ซึ่งเปิดอบรมให้กับผู้ที่สนใจอยากมีธุรกิจร้านกาแฟ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น จนกระทั่งเมื่อปี 2556 ซีพี รีเทลลิงค์ จึงตัดสินใจเปิดตัวธุรกิจแฟรนไชส์ร้านกาแฟมวลชน เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการส่งเสริมอาชีพให้กับผู้ประกอบการรายใหม่ที่ต้องการมีธุรกิจร้านกาแฟ รวมถึงรายเก่าที่ต้องการมีธุรกิจกาแฟควบคู่ไปกับธุรกิจเดิม
ธุรกิจแฟรนไชส์ร้านกาแฟมวลชน มีขนาดธุรกิจให้ผู้ลงทุนเลือกถึง 4 รูปแบบ เริ่มตั้งแต่ขนาด SS ซึ่งมีลักษณะเป็นคีออส ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นไม่ถึง 300,000บาท ถัดมาคือขนาด S และ M ไปจนถึง L คือขนาดใหญ่ที่สุดซึ่งเหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่มีทำเลขนาดพื้นที่ 61 ตร.ม.ขึ้นไป โดยกาแฟมวลชนมีทีมงานมืออาชีพที่พร้อมให้การดูแลและสนับสนุนผู้ประกอบการที่สนใจมีธุรกิจร้านกาแฟตลอดอายุสัญญา ตั้งแต่ประเมินทำเลสถานที่ตั้งฟรี ให้คำปรึกษาเรื่องการออกแบบและตกแต่งร้าน อบรมพื้นฐานการทำธุรกิจและการบริหารจัดการร้านกาแฟฟรี ผ่านการปฏิบัติจริงในสถานที่จริง จัดทำกลยุทธ์การตลาด กิจกรรมส่งเสริมการขาย และการประชาสัมพันธ์สินค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมทีมช่างบริการครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งผู้ที่สนใจอยากเป็นเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ร้านกาแฟมวลชน สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-044-1111 กด 2
ร้านกาแฟมวลชนมุ่งหวังที่จะเดินหน้าสานต่อการดำเนินธุรกิจร้านกาแฟควบคู่ไปกับแนวคิด "กาแฟสร้างอาชีพเพื่อสังคมและชุมชน" ด้วยการจับมือกับแฟรนไชส์ซี่ ที่สนใจเปิดร้านกาแฟมวลชน ร่วมสร้างประสบการณ์การบริโภคกาแฟในรูปแบบใหม่ให้กับผู้บริโภคได้ใส่ใจสังคมและชุมชน ไม่เพียงได้บริโภคกาแฟที่ดีในราคาที่เข้าถึงได้เท่านั้น แต่ยังได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมอาชีพเกษตรกร ผู้ประกอบการ SME ท้องถิ่น และส่งต่อสาธารณะประโยชน์ให้กับวัดและมูลนิธิเด็กทุก 1บาท 1 แก้ว ผ่านเครื่องดื่มจากร้านกาแฟมวลชนกว่า 150 สาขาทั่วประเทศ
นายสุรัตน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันธนาคารมีสินเชื่อเพื่อธุรกิจแฟรนไชส์คงค้าง 2,439 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะอยู่ใน 4 กลุ่มธุรกิจ คือ ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจอาหาร ธุรกิจเบเกอรี่ และธุรกิจเครื่องดื่ม ตามลำดับ ซึ่งสินเชื่อเพื่อธุรกิจแฟรนไชส์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากธุรกิจแฟรนไชส์เป็นทางเลือกที่ดีในการทำธุรกิจสำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ โดยในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อแฟรนไชส์เติบโต 5%
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit