นางสาวพาขวัญ เจียมจิโรจน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดิเอ็กซ์ซิบิส จำกัด ในฐานะผู้จัดงาน กล่าวว่า ในปีนี้ 2ยักษ์ใหญ่แห่งวงการนิทรรศการจีนอย่างบริษัท ไชน่า ฟอร์เร็น เทรด เซ็นเตอร์ (กรุ๊ป) (China Foreign Trade Center (Group))กับบริษัท ไชน่า เฟอร์เร็น เทรด กว่างโจวเอ็กฮิบิชั่น เจนเนอรัลคอร์ป (China Foreign Trade Guangzhou Exhibition General Corp)เจ้าของงาน "8th China ASEAN (Thailand) Commodity Fair 2018"และบริษัท เวิลด์เด็กซ์ซิงค์เอ็กซ์เอ็กซ์บิชั่น (กวางโจว) จำกัด (Worldex-SingEx Exhibitions (Guangzhou) Co., Ltd.)เจ้าของงาน "9th Guangdong (Thailand) Products show 2018"ร่วมกันจัดงาน8th China ASEAN (Thailand) Commodity Fair 2018 และ 9th Guangdong (Thailand) Products show 2018 พร้อมกัน ณ ฮอลล์ 99 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ในวันที่ 27-29 กันยายน2561นี้
จากภาพรวมของการจัดงานในปีที่ผ่านมา มีผู้ร่วมแสดงสินค้าทั้งสิ้น 227 ราย ผู้เข้าชมงานทั้งไทยและอาเซียนราว 10,478 คน งานนี้ไม่เพียงประสบความสำเร็จในการนำบริษัทต่าง ๆ ของจีนมาเปิดตลาดในประเทศไทย ขณะเดียวกันยังสามารถช่วยให้ผู้ซื้อของไทยเข้าใจในสินค้าของจีนมากขึ้น เหล่านี้ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงผลดีของการส่งเสริมการค้าระหว่างไทย-จีน ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แนวโน้มโดยรวมของตลาดนำเข้าและส่งออกระหว่างไทย-จีนนับว่ามีเสถียรภาพค่อนข้างสูง กอปรกับ ล่าสุด ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในเวทีการประชุมสุดยอด One Belt, One Road (OBOR) หรือเส้นทางสายไหมว่า "นับเป็นความหวังใหม่ทางด้านเศรษฐกิจโลก ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับผลประโยชน์ทางด้านการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ และจะเป็นความร่วมมือเพื่อก้าวไปสู่โอกาสในการพัฒนา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการค้าระหว่างไทย-จีนกำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดี"
นางสาวพาขวัญ ยังกล่าวต่ออีกว่า การจัดงาน "8th China ASEAN (Thailand) Commodity Fair 2018 และ 9th Guangdong (Thailand) Products show 2018" ในปีนี้ ยังคงเป็นรูปแบบ "นิทรรศการ" กับ "สัมมนา" เช่นเดิม ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ร่วมแสดงสินค้าและผู้เข้าชมงาน ซึ่งคาดว่าจะมีบริษัทจีนจากมณฑลกวางตุ้งและเมืองต่างๆ ราว 200 บริษัทนำสินค้ามาจัดแสดงในงานประมาณ 250 บูธ เช่น เครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือ เครื่องจักรขนาดเล็ก ไฟส่องสว่าง เสื้อผ้าแฟชั่นและรองเท้า เป็นต้น นอกจากนั้น บริษัท China Construction Expo หวังส่งเสริมอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทย จึงนำกลุ่มบริษัทผู้ผลิต อาทิ วัสดุก่อสร้าง เครื่องมือฮาร์ดแวร์ เครื่องจักรขนาดเล็ก ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งขนาดกลางและขนาดเล็กจัดสินค้าที่มีคุณภาพสูงของจีนเข้าสู่ตลาดไทยอีกทางหนึ่งอีกด้วย
เหตุผลที่ 2 ยักษ์ใหญ่แห่งวงการนิทรรศการจีนเลือกประเทศไทยในการจัดงานแสดงสินค้าอย่างต่อเนื่องนั้น สืบเนื่องมาจากไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในการส่งออกสินค้าไปสู่เอเชียใต้ อเมริกาใต้ ยุโรป ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลี อีกทั้งแผนการพัฒนาของไทยในปี 2012-2022 ครอบคลุมถึงโครงข่ายรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมโยงประเทศไทยกับตอนใต้ของจีน ประเทศตามฝั่งตะวันออก ตะวันตกและทางใต้ของอาเซี่ยน รวมถึงแผนพัฒนาฉนวนฝั่งตะวันออกส่งผลให้มีความเข้มแข็งทางการค้ามากขึ้น และไทยยังเป็นตลาดสำคัญแห่งหนึ่งตามแนว "One Belt, One Road"ดังจะเห็นได้จากแนวโน้มในการเติบโตที่ดีของไทยในปัจจุบัน ที่ไทยมีGDP สูงถึง 455,245 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ เติบโต 10.6% ในปี 2017 และในปี 2018 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโต 4.0% ด้วยเหตุนี้ จีนจึงถือเป็นประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทย ซึ่งในปี 2017 ดุลการค้าของทั้ง 2 ประเทศมีมูลค่า 80,920 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ในขณะที่จีนส่งสินค้าออกไปยังไทยมูลค่า 38,710ล้านดอลล่าร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ตลอดการจัดงานแสดงสินค้าทั้ง 3 วัน ผู้จัดงานได้จัดเวทีสัมมนาหัวข้อต่าง ๆ เพื่อผลักดันเศรษฐกิจเข้าสู่โลก 4.0 การทำธุรกิจผ่านโลกดิจิตอล และยังเป็นการส่งเสริมการค้าระหว่างไทย–จีนมากยิ่งขึ้นอาทิหัวข้อติดเครื่องธุรกิจ ลุย E-commerce 4.0 จาก "ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ", หัวข้อลดต้นทุน ลดปัญหา การเลือกสินค้านำเข้าจากจีน จาก "ครูปูน เบญจมาศ ไชยวงศ์", หัวข้อ Level Up ธุรกิจ เปิดกลยุทธ์บุกตลาดจีน จาก "อิทธิชัย อรรถกระวีสุนทร", และหัวข้อสร้าง Content ขายให้โดน ขยายโอกาสตลาดออนไลน์ จาก "หมอกิม น.สพ.ธีรพงษ์ เศรษฐิวัฒน์" เป็นต้น ซึ่งผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-664-6499ต่อ101 หรือติดต่อผ่านอีเมล [email protected]หรือเว็บไซต์ www.facebook.com/chinaproductshow
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit