นางรอซ กัวโนรี ผู้อำนวยการ สมาพันธ์การพิมพ์แห่งยุโรป หรือ เฟสป้า กล่าวว่า "การตัดสินใจเปลี่ยนชื่องานจากเดิม FESPA Asia เป็น Asia Print Expo เพราะเฟสป้า ต้องการสื่อสารรูปแบบการจัดงานและชื่อให้สอดคล้องกัน เพื่อสร้างความเข้าใจที่ง่ายและชัดเจน เนื่องจากผู้ชมงานหลายท่านอาจไม่รู้จักองค์กรเฟสป้า ซึ่งแตกต่างจากทวีปยุโรปและอเมริกาใต้ งานของเฟสป้า เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงมากในฐานะงานแสดงสินค้าและนิทรรรศการชั้นนำของอุตสาหกรรมการพิมพ์ อย่างไรก็ตาม ทวีปเอเชีย เฟสป้า ถือเป็นภูมิภาคใหม่ หลายท่านอาจไม่รู้จัก เฟสป้า ดังนั้น การเปิดตัวงาน Asia Print Expo ครั้งนี้ ภายใต้แนวคิดหลักของแบรนด์ คือ สู่โลกการพิมพ์แห่งอนาคต จะช่วยสร้างความเข้าใจให้แก่กลุ่มผู้เข้าร่วมแสดงงาน และผู้ชมงานได้ชัดเจนยิ่งขึ้น"
แนวคิดของแบรนด์ Asia Print Expo สื่อสารผ่านภาพโครงร่างอาคารสำคัญในกรุงเทพฯ บนพื้นสีและลวดลายงานพิมพ์ในลักษณะต่าง ๆ
ตลอดระยะเวลาการจัดงาน 3 วัน Asia Print Expo 2019 นับเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการในธุรกิจบริการงานพิมพ์และจัดทำป้ายต่าง ๆ จะได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม จากผู้ประกอบการชั้นนำระดับโลกด้านการพิมพ์ อาทิ Hexis, Siser, Stahls Asia และ Poli-Tape Klebefolien GmbH รวมถึงผู้ประกอบการชั้นนำระดับภูมิภาค อาทิ SVOA-Roland, SKT. Embroidery Co., Ltd., Tong Guan Media Printing Co., Ltd. Jinmao, Shanghai Vision Digital Printing, Shanghai Screen Manufacturing Co., Ltd, Fei Yue Digital Technology Co., Ltd และ Haining Tianfu Warp Knitting Co., Ltd.
นอกจากนี้ สำหรับนักธุรกิจที่สนใจเข้าร่วมชมงาน ภายในงาน จัดให้มีการประชุมสัมมนาและสาธิต เพื่อให้ความรู้และเปิดโลกทัศน์ในการพัฒนาธุรกิจการพิมพ์สร้างรายได้ในยุคดิจิทัล โดย เฟสป้า จะนำความรู้และประสบการณ์ความสำเร็จจากการดำเนินธุรกิจทั่วโลก มาแบ่งปันให้ผู้สนใจรับทราบถึงแนวโน้มของอุตสาหกรรม การพัฒนาตลาดและสร้างความได้เปรียบเชิงธุรกิจการพิมพ์ ที่สำคัญ ยังมีการแข่งขันหุ้มยานยนต์ระดับโลก FESPA Wrap Masters การแสดงสินค้าและสาธิตธุรกิจแฟชั่นเสื้อผ้า Print Make Wear Asia ซึ่งจะนำเสนอตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการออกแบบ จนถึงเสร็จสิ้นเป็นเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับแฟชั่น รวมทั้ง จัดให้มีการประชุมระดับชาติและนานาชาติอีกหลายหัวข้อ
Asia Print Expo 2019 ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก สมาคมพันธมิตรระดับชาติของเฟสป้าในประเทศไทย อินเดีย ศรีลังกา เนปาล เกาหลี ญี่ปุ่น จีน ฟิลิปปินส์ และออสเตรเลีย ความร่วมมือดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความต้องการและประสบการณ์ของผู้ให้บริการงานพิมพ์ในแต่ละภูมิภาคได้เป็นอย่างดี ควบคู่ไปกับการผสมผสานความเชี่ยวชาญระดับโลกของเฟสป้าในการจัดงานแสดงสินค้าและนิทรรศการงานพิมพ์เฉพาะด้าน จึงทำให้สามารถมั่นใจได้ว่า Asia Print Expo 2019 จะเป็นอีกหนึ่งงานเป้าหมายที่ช่วยผลักดันให้ผู้เข้าชมงานสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุด
ความสำเร็จจากการจัดงาน FESPA Asia 2018 ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงาน 4,328 ราย จาก 66 ประเทศทั่วโลก ส่วนใหญ่จากประเทศไทย คิดเป็นร้อยละ 75 นางรอซ กัวโนรี กล่าวสรุปว่า การจัดงานครั้งที่ผ่านมา ผลตอบรับเป็นที่น่าพึงพอใจทั้งจากผู้ประกอบการและผู้เข้าชมงาน และคาดหวังว่า จะเป็นประสบความสำเร็จเช่นเดิมในการจัดงานครั้งต่อไปที่จะถึงนี้ในชื่องานใหม่ โดยมีกลุ่มผู้เข้าร่วมงานครอบคลุมทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียนและเติบโตขึ้นเป็นเครือข่ายผู้ประกอบการที่ใหญ่ขึ้นกว่าที่เคยจัดมาก่อน
สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของ Asia Print Expo 2019 ได้ที่ www.asiaprintexpo.com และสามารถลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้าโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ใช้รหัส ASAM901
เกี่ยวกับเฟสป้า
ก่อตั้งขึ้นในปี 1962 เฟสป้า เป็นสมาพันธ์ระดับโลกที่มีสมาชิกระดับสมาคมในกลุ่มอุตสาหกรรมการพิมพ์สกรีน การพิมพ์ดิจิทัล และการพิมพ์บนวัสดุสิ่งทอ เฟสป้า มีเป้าหมายในการส่งเสริมอุตสาหกรรมการพิมพ์สกรีนและการพิมพ์ระบบดิจิทัล รวมทั้ง แบ่งปันความรู้ให้แก่สมาชิกทั่วโลกเกี่ยวกับการพิมพ์สกรีนและดิจิทัล เพื่อช่วยเหลือองค์กรสมาชิกให้สามารถสร้างธุรกิจจนเติบโต และเรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนาล่าสุดในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
เป้าหมายการดำเนินงานของ เฟสป้า
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของ เฟสป้า คือ กลุ่มอุตสาหกรรม เฟสป้า จึงได้ลงทุนกว่าล้านเหรียญยูโรในอุตสาหกรรมการพิมพ์โลกมานานกว่า 7 ปี เพื่อส่งเสริมการเติบโตของตลาด ข้อมูลเพิ่มเติมติดตามได้ที่ www.fespa.com
การวิจัยของ เฟสป้า
การวิจัยอุตสาหกรรมการพิมพ์ของ เฟสป้า เป็นโครงการวิจัยระดับโลก เพื่อสร้างความเข้าใจในอุตสาหกรรมการพิมพ์หน้ากว้าง การพิมพ์สกรีน และการพิมพ์ระบบดิจิทัล เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และครบวงจรที่สุด
งานแสดงสินค้าของ เฟสป้า ที่กำลังจะเกิดขึ้น ประกอบด้วย
FESPA Africa, ระหว่างวันที่ 12-14 กันยายน พ.ศ. 2561 ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการ Gallagher Convention Centre เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้
FESPA Mexico, ระหว่างวันที่ 20-22 กันยายน พ.ศ. 2561 ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการ Centro Citibanamex เมืองเม็กซิโก ประเทศเม็กซิโก
FESPA Eurasia, ระหว่างวันที่ 6-9 ธันวาคม พ.ศ. 2561 ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการ Istanbul Expo Centre เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
Asia Print Expo, ระหว่างวันที่ 21-23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2562 ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการไบเทค บางนา กรุงเทพฯ ประเทศไทย
FESPA Brasil, ระหว่างวันที่ 20-23 มีนาคม พ.ศ. 2562 ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการ Expo Center Norte, เมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล
FESPA Global Print Expo, ระหว่างวันที่ 14-17 พฤษภาคม 2019 ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการ มิวนิก เมสเซ่ ประเทศเยอรมัน
European Sign Expo, ระหว่างวันที่ 14-17 พฤษภาคม 2019 ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการ มิวนิก เมสเซ่ ประเทศเยอรมัน
บทสัมภาษณ์ นางรอซ กัวโนรี
ผู้อำนวยการ สมาพันธ์การพิมพ์แห่งยุโรป หรือ เฟสป้า
ภาพรวมตลาดการพิมพ์และป้ายโฆษณาของโลก มีมูลค่ารวมมากกว่า 42.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.3 หมื่นล้านบาท ในปี พ.ศ. 2560 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 ปี จนถึงปี พ.ศ. 2565 โดยแนวโน้มของอุตสาหกรรมจะมีการปรับตัวไปสู่ระบบดิจิทัลอย่างเร็วมากขึ้น
ภาพรวมอุตสาหกรรมการพิมพ์ปัจจุบัน สามารถแบ่งได้เป็น 6 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ การพิมพ์ดิจิทัล ร้อยละ 17 การพิมพ์สกรีน ร้อยละ 15 การพิมพ์ป้าย ร้อยละ 10 การพิมพ์บนเครื่องนุ่งห่ม ร้อยละ 10 บริการการพิมพ์ ร้อยละ 13 บริการออกแบบและสร้างสรรค์เพื่อการพิมพ์ ร้อยละ 11 และการพิมพ์บรรจุภัณฑ์ ร้อยละ 4
ทั้งนี้ จากผลการศึกษาของเฟสป้าล่าสุด (พฤษภาคม 2558) ใน 102 ประเทศจากกลุ่มตัวอย่าง 1,405 รายจากภูมิภาคยุโรป ยูเรเซีย เม็กซิโก บราซิล ไทย และแอฟริกาใต้ พบ 6 แนวโน้ม (Trend) สำคัญที่น่าจับตามอง
1) ตลาดการพิมพ์ดิจิทัลเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน การพิมพ์ดิจิทัล สร้างรายได้หลักให้แก่องค์กรสูงถึงร้อยละ 44 ของรายได้ทั้งหมด และคาดว่าจะเติบโตสูงถึง ร้อยละ 53 ในปี 2020
2) ความต้องการของลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการผลิตระดับบุคคล หรือ ผลิตจำนวนมากเพื่อแต่ละคน (Mass Customization) ยังคงเป็นความต้องการหลัก ในอดีต ธุรกิจการพิมพ์ จำเป็นต้องพิมพ์เอกสารหรือหนังสือ เป็นจำนวน 1,000 ชุดภายในการผลิต 1 ครั้ง ทำให้กลุ่มลูกค้าหลายรายที่ต้องการจำนวนพิมพ์ไม่มาก จึงไม่สามารถใช้บริการดังกล่าวได้ แต่ปัจจุบันสามารถดำเนินการได้แล้วตามแนวคิดของ Mass Customization แต่ยังมีความต้องการอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ร้อยละ 72 ต้องการระบบที่ประมวลผลเร็วขึ้น ร้อยละ 61 ระยะเวลาการผลิตที่น้อยลงด้วยต้นทุนที่ต่ำ และ ร้อยละ 59 คาดหวังว่าการจัดส่งผลผลิตจะทันต่อการใช้งานเพิ่มมากขึ้น
3) นวัตกรรมการพิมพ์แบบครบวงจร การพิมพ์ป้ายแบนเนอร์หรือบิลบอร์ดยังคงเติบโตเป็นอย่างดี แต่ผู้บริการเริ่มให้บริการด้านอื่นครอบคลุมนอกจากการพิมพ์อย่างเดียว แต่ยังให้บริการหุ้มลงวัสดุต่าง ๆ ให้แก่ลูกค้าเพิ่มด้วย เช่นเดียวกัน การเติบโตในธุรกิจการพิมพ์วอลเปเปอร์หรืออุปกรณ์ตกแต่งภายใน เป็นอีกหนึ่งสาขาการพิมพ์ที่ช่วยผลักดันด้านรายได้ให้กับธุรกิจ
4) การลงทุนเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มลูกค้า จากการวิจัย พบว่า ร้อยละ 54 ของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม ลงทุนพัฒนาระบบการพิมพ์ดิจิทัล ร้อยละ 53 ลดค่าใช้จ่ายและต้นทุนการผลิต ร้อยละ 53 ให้ความสำคัญต่อการลงทุนด้านผลิตภัณฑ์และแสวงหาตลาดการค้าใหม่ ๆ
5) การพิมพ์ในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม กำลังเข้าไปมีบทบาทเพิ่มมากขึ้น พบว่า ร้อยละ 56 ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มกำลังนำระบบการพิมพ์ดิจิทัลเข้าไปพัฒนาใช้ในการผลิต ร้อยละ 19 มีแผนจะนำระบบการพิมพ์ดิจิทัลเข้าไปใช้ภายในปี 2020 โดยมีเป้าหมายสำคัญในการลดเวลาในการผลิตสู่ตลาด สามารถออกแบบสร้างสรรค์ได้อย่างอิสระ สร้างต้นแบบงานได้ง่าย และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้น้ำและพลังงานน้อยลง ทั้งนี้ หัวใจสำคัญของการพัฒนาการพิมพ์ในเครื่องนุ่งห่ม คือ ลดระยะเวลาการผลิต และสามารถพิมพ์ลงบนวัสดุต่าง ๆ ได้มากขึ้น สำหรับเครื่องพิมพ์เครื่องนุ่งห่มนี้ คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้ธุรกิจได้สูงถึงร้อยละ 12 ภายในปี 2020
6) กระแสการพัฒนาธุรกิจควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อม กลายเป็นหนึ่งในความคาดหวังของกลุ่มลูกค้า โดยกลุ่มผู้ประกอบการ ร้อยละ 32 ให้ความสำคัญต่อการใช้พลังงานและอุปกรณ์ที่ได้รับการรับรองด้านสิ่งแวดล้อม และร้อยละ 72 ลงทุนพัฒนาธุรกิจให้เกิดความยั่งยืนด้วยการรักษาระดับราคาให้คงที่ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อกลุ่มลูกค้าและให้สามารถแข่งขันได้ในธุรกิจ
ผลวิจัยดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง ปรับเปลี่ยน และเติบโตของอุตสาหกรรมการพิมพ์ รวมถึง ผู้ประกอบการมีความเข้าใจและตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มลูกค้า ด้วยการใช้กลยุทธ์สำคัญคือ การยึดหลักลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ลงทุนพัฒนาธุรกิจในด้านการอบรมและเทคโนโลยี
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เฟสป้า ในฐานะองค์กรชั้นนำในอุตสาหกรรมการพิมพ์ ได้ลงทุนด้านการวิจัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือองค์กรสมาชิกทั่วโลก ให้สามารถวางแผนกลยุทธ์องค์กรได้ในอนาคต สำหรับผู้ประกอบการท่านใด สนใจสมัครเป็นสมาชิกของเฟสป้า สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คุณเจนิส เขมาชฎากร ผู้จัดการโครงการ เฟสป้า ประจำประเทศไทย โทรศัพท์ 098-81
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit